Page 21 -
P. 21
์
ิ
ั
ิ
ิ
ุ
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
ื
ิ
่
็
นางสาวทิพย์ โดยให้นางสาวพอใจลงชือ และระบุว่ากระท าการแทนนายเปนต่อ โดยใช้ข้อความว่า
็
“พอใจ กระท าการแทน นายเปนต่อ” และส่งมอบตั๋วแลกเงินฉบับนีให้นางสาวทิพย์ไป เมือตั๋วแลกเงินถึง
่
้
่
่
่
ก าหนด นางสาวทิพย์นาตั๋วไปยืนให้นายนิยมจายเงิน และนายนิยมปฏิเสธการจายเงิน นางสาวทิพย์ไม ่
้
สามารถไล่เบียให้นางสาวพอใจรับผิดได้ เพราะนางสาวพอใจสามารถยกข้อต่อสู้ได้ว่า ตนได้ระบุไว้
ี
็
ชัดเจนว่ากระท าการแทนนายเปนต่อ เพราะได้เขียนแถลงไว้ในตั๋วแลกเงินฉบับนแล้ว
้
ในประเด็นเรืองการลงนามในฐานะตัวแทน หากผู้ลงนามไมได้เขียนแถลงไว้ แต่ผู้ลงนามได ้
่
่
่
กระท ำฐำนะตัวแทน ตำมกฎหมำยตัวแทน ตัวการก็ยังคงต้องรับผิดอยู่ หากบุคคลทีลงนามในเช็คนั้น
์
สามารถพิสูจนข้อเท็จได้ว่า ตนได้กระท าการในฐานะตัวแทนของตัวการ เช่น ค ำพิพำกษำฎกำท ่ ี
ี
่
14778/2558 จ าเลยเปดบัญชีเดินสะพัดไว้กับธนาคารและระบุเงือนไขการสั่งจายเช็คว่า ว. กรรมการของ
ิ
่
จ าเลยจะลงลายมือชื่อในเช็คและประทับตราส าคัญของจ าเลย ซึงตรงกับการกระท าของผู้แทนนิติบุคคลที ่
่
จะผูกพันจ าเลยได้จะต้องลงลายมือชื่อ ว. กรรมการกับประทับตราส าคัญตามหนังสือรับรองบริษัท แต่ ว.
ลงลายมือชือในเช็คพิพาทโดยไมประทับตราส าคัญ เมือเช็คพิพาทสั่งจายเงินจากบัญชีของจ าเลยและ
่
่
่
่
่
ด้านหนาก็พิมพ์ชื่อจ าเลยไว้ บุคคลทีรับเช็คย่อมเข้าใจว่าเปนเช็คของจ าเลย การที ว. กรรมการจ าเลยสั่ง
่
้
็
่
็
็
จายเช็คพิพาท ถือได้ว่าจ าเลยเชิด ว. แสดงออกเปนตัวแทนของตน จ าเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเปน
่
บุคคลภายนอกผู้สุจริต ตามมาตรา 821 ที่จ าเลยให้การต่อสู้ว่า ว. สั่งจายเช็คพิพาทในนามของตนเอง
ั
จึงรับฟงไม่ได้
ค าพิพากษาฎีกาข้างต้นมีความเกียวข้องกับกฎหมายบริษัท กฎหมายตั๋วเงิน และกฎหมาย
่
ตัวแทน กล่าวคือ ว. ได้ลงชือในเช็คโดยไมได้ประทับตราส าคัญบริษัท การลงนามของ ว. ตามกฎหมาย
่
่
่
็
่
่
บริษัท ย่อมไมผูกพันจ าเลยในฐานะที่เปนนิติบุคคล ท าให้บริษัทไมต้องผูกพันตามเช็ค เพราะไมถือว่า
่
้
ี
็
็
เปนผู้ลงลายมือชื่อเช็คตามมาตรา 900 แตอย่ำงไรก็ตำม ในกรณีน ศาลเห็นว่าเปนกรณีทีบริษัทได้ เชิด
่
่
็
ว. มาเปนตัวแทนของตน ตามกฎหมายตัวแทนซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 821 เมือบุคคลภายนอกเชือโดย
่
สุจริตว่า ว. เปนตัวแทนของบริษัท บริษัทจึงต้องรับผิดกับบุคคลภายนอกคนนั้น ซึงก็คือ โจทก์ในค ำ
่
็
ี
่
ี
พิพำกษำฎกำท 14778/2558 ข้างต้นน ้ ี
ี
ี
่
้
นอกจากนี ได้เคยมีค ำพิพำกษำฎกำท 1736/2564 หากเช็คพิพาทมีชือบริษัทของเจ้าของเช็ค
่
ปรากฏอยู การลงนามของกรรมการก็ผูกพันบริษัท แม้กรรมการจะไมได้ประทับตราส าคัญบริษัทตาม
่
่
่
่
็
่
ข้อบังคับก็ตาม ในคดีนี จ าเลยที 1 ซึงเปนบริษัทจ ากัดตกลงออกเช็คพิพาท 2 ฉบับของจ าเลยที 1 ให้แก่
้
โจทก์เพื่อเปนการช าระหนีตามตั๋วแลกเงินทีจ าเลยที 1 ออกให้ในวันเดียวกันนั้นประกอบกับเช็คพิพาทก็
่
็
้
่
็
่
ได้ระบุชื่อจ าเลยที 1 ไว้ด้านบนซ้ายอันแสดงให้เห็นเปนประจักษ์ว่าเปนเช็คของจ าเลยที 1 จึงไม่มีเหตุผล
็
่
็
่
่
่
่
ใดทีจะท าให้โจทก์เข้าใจไปได้ว่า การทีจ าเลยที 3 ร่วมลงลายมือชือสั่งจายในเช็คนั้น เปนการกระท าใน
่
่
ฐานะส่วนตัว แม้ในเช็คดังกล่าวจะไมมีตราส าคัญของจ าเลยที่ 1 ประทับไว้ แต่กรณีก็เปนที่เข้าใจได้ว่า
็
จ าเลยที่ 3 ร่วมลงลายมือชือสั่งจายโดยกระท าการแทนจ าเลยที่ 1 เท่านั้น อันเปนการออกเช็คในนาม
็
่
่
็
จ าเลยที 1 โดยไม่จ าเปนต้องระบุหรือเขียนแถลงว่าเปนการกระท าการแทนจ าเลยที 1 ตาม ป.พ.พ
่
่
็
20
เอกสารประกอบการสอนวิชากฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน โดย อ. ดร. ชีวิน มัลลิกะมาลย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์