Page 57 -
P. 57
์
ิ
ิ
ื
ิ
ุ
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
ั
ิ
54
➢ การหมุนเข่าออกนอก ทำให้ medial meniscus เคลื่อนที่ไปทางด้านหลังเฉลี่ย 5.7
มิลลิเมตร โดยส่วน body ของ meniscus (Intermediate horn) เคลื่อนที่ไปทางด้าน
หลังมากที่สุดถึง 6.921 มิลลิเมตร และเมื่อหมุนเข่าเข้าใน medial meniscus เคลื่อนที่
ไปทางด้านหน้าเพียง 1.66 มิลลิเมตร
➢ การหมุนเข่าเข้าใน ทำให้ lateral meniscus เคลื่อนที่ไปด้านหลังเฉลี่ย 4.32 มิลลิเมตร
โดยส่วนของ intermediate horn ของ lateral meniscus เคลื่อนที่ทางด้านหลังมาก
ที่สุดถึง 5.329 มิลลิเมตร
ลักษณะการฉีกขาดของ meniscus แบ่งออกเป็น
1. การฉีกขาดตามยาว longitudinal oriented tear
1.1 vertical tear การฉีกขาดตั้งฉากกับ tibia plateau (ภาพที่ 11) และขนานกับขอบของ
meniscus หรือขาดแบ่งชิ้น meniscus ออกเป็น ชิ้นส่วนด้านนอก และชิ้นส่วนด้านใน การฉีกขาดแบบ
vertical tear ที่บริเวณ horn ของ meniscus จะทำให้มีความเค้นกด (compressive stress) และความ
เค้นเฉือน (shear stress) ที่หมอนรองกระดูกข้อเข่า เอ็นยึดข้อ (ligament) กระดูกอ่อนผิวข้อ และ
กระดูก subchondral bone
ภาพที่ 11 vertical tear ของ meniscus จาก posterior ยาวถึง
anterior horn
ที่มา Weerakkody Y, Hacking C, Roberts D, et al. Vertical
meniscal tear. Radiopaedia.org. Accessed Nov 17, 2024.
https://doi.org/10.53347/rID-39357
1.2 horizontal tear การฉีกขาดขนานกับ tibia plateau (ภาพที่ 12) จึงแบ่ง meniscus
ออกเป็น ชิ้นส่วนด้านบน และชิ้นส่วนด้านล่าง Brown et al (2016) ได้ทดลองเฉือนหมอนรองกระดูก
ข้อเข่าของผู้ที่เสียชีวิต ให้มีรอยฉีกขาดแบบ horizontal tear ที่บริเวณ posterior horn ของ medial
meniscus จากนั้นจึงตัดชิ้นส่วนที่ฉีกขาดให้หลุดออกจากชิ้น meniscus พบว่า ถ้าตัดส่วนที่ฉีกขาดออก
ิ่
1 ชิ้น จะเพมความดันระหว่างกระดูกประมาณ 33 – 46 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อตัดส่วนที่ฉีกขาด ทั้ง 2 ชิ้น
ให้หลุดออกจากชิ้น meniscus ความดันระหว่างกระดูกเพิ่มขึ้น 75 – 79 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ การตัด
Clinical Biomechanics of Knee ผศ.ดร.สิริพร ศศิมณฑลกุล