Page 116 -
P. 116

ิ
                                                                                ุ
                                                       ิ
                                                                       ั
                                        ์
                        ื
    โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร                  ี
                                     ิ
                           ิ
                                                            ี
               (Connective tissue) เพื่อช่วยป้องกันกำรบำดเจ็บท่ข้อต่อ โดยท่วไปเรำสำมำรถพัฒนำควำม
                                                                       ั
               ยืดหยุ่นได้ โดยกำรฝึกกำรยืดเหยียดกล้ำมเนื้อ (Stretching training) หรืออำจฝึกโดยน�ำกำรออก
               ก�ำลังกำยในรูปแบบต่ำงๆ มำใช้ เช่น ไทชิ โยคะ พิลำทิส  หรือน�ำรูปแบบเหล่ำนี้มำประยุกต์ท่ำทำง
                                       �
                                                     ื
                                                                               ื
                                                                                      ี
               ส�ำหรับกำรออกก�ำลังกำยในน้ำ ซึ่งหำกกล้ำมเน้อมีควำมยืดหยุ่นและมุมกำรเคล่อนไหวด นอกจำก
               จะช่วยลดอัตรำเสี่ยงของกำรบำดเจ็บแล้ว ยังจะน�ำไปสู่กำรได้มำของพลัง ควำมแคล่วคล่องว่องไว
                                                                                �
                                          ี
                               ึ
               ในกำรเคล่อนไหวซ่งเป็นทักษะท่นักกีฬำต้องกำร ส�ำหรับกำรออกก�ำลังกำยในน้ำ แนะน�ำให้ออก
                        ื
               ก�ำลังกำยในน�้ำที่อุณหภูมิ 30-32 องศำเซสเซียส
                                   ี
                                                        �
                         นอกจำกน กำรออกก�ำลังกำยในน้ำในรูปแบบต่ำงๆ ยังเหมำะส�ำหรับกำรฝึก
                                   ้
                                                                          ื
               สมรรถภำพด้ำนกำรทรงตัว (Balance) กำรประสำนสัมพันธ์ในกำรเคล่อนไหว (Coordination)
               ควำมแคล่วคล่องว่องไว (Agility) และกระตุ้นตัวรับควำมรู้สึก (Proprioception) รวมเรียกว่ำ
                                                                      ี
                                             ึ
               Functional Fitness Training ซ่งกำรพัฒนำสมรรถภำพเหล่ำน้ช่วยให้กำรท�ำงำนของระบบ
               ประสำทและกล้ำมเนื้อดีขึ้น
                         1.3  ช่วงกำรผ่อนคลำย

                               ช่วงกำรผ่อนคลำย (Cool down Phase) มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กำรไหลเวียน

                                                          ึ
               เลือดจำกส่วนต่ำงๆ ของร่ำงกำยไหลกลับสู่หัวใจได้ดีข้น ลดอำกำรเวียนศรีษะ กำรปรับตัวของอัตรำ
                                                               ึ
               กำรเต้นของหัวใจและควำมดันเลือดกลับสู่สภำวะปกติได้ดีข้น ช่วยก�ำจัดกรดแลกติกท่เกิดข้นขณะ
                                                                                    ี
                                                                                         ึ
               ออกก�ำลังกำย และลดควำมปวดเมื่อยของกล้ำมเนื้อ ซึ่งกำรผ่อนคลำย ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน
                                                                                      ื
               คือ ช่วงผ่อนคลำยกำรท�ำงำนของระบบหัวใจและกำรหำยใจ และช่วงยืดเหยียดกล้ำมเน้อภำยหลัง
               กำรออกก�ำลังกำย ส�ำหรับช่วงผ่อนคลำยกำรท�ำงำนของระบบหัวใจและกำรหำยใจ จะลดระดับ

                                                          ื
               ควำมหนักหรือควำมเร็วของกิจกรรมลง ด้วยกำรเคล่อนไหวเบำๆ เพื่อปรับระบบกำรท�ำงำนของ
                                                                ้
                                                                ื
                                                                       ั
                                                                                   ั
                                                                                 �
                               ู
                                         ิ
                          ั
                             ื
               ร่ำงกำยให้กลบคนส่สภำวะปกต ส่วนช่วงยดเหยียดกล้ำมเนอภำยหลงกำรออกกำลงกำยเป็นกำร
                                                  ื
               ยืดกล้ำมเนื้อ เพื่อให้ควำมยำวกลับไปเท่ำกับก่อนกำรออกก�ำลังกำย เนื่องจำกขณะออกก�ำลังกำย
               มีกำรหดตัวของกล้ำมเนื้อ นอกจำกนี้ยังช่วยในกำรเพิ่มช่วงมุมกำรเคลื่อนไหวของข้อต่อ ดังนั้น จึง
                           ี
                                          ื
                    ิ
                                                                         ี
               เป็นส่งส�ำคัญท่จะต้องยืดกล้ำมเน้อหลังกำรออกก�ำลังกำยทุกคร้ง เพื่อท่จะรักษำและส่งเสริมควำม
                                                                  ั
                                     ื
                                                                                          ี
                                                                               ั
                                                                        ื
                                                   ื
                                                                                          ่
               ยืดหยุ่น ตลอดจนลดกำรเม่อยล้ำของกล้ำมเน้อ รูปแบบกำรยืดกล้ำมเน้อท�ำได้ท้งแบบอยู่กับท หรือ
               แบบเคล่อนไหว แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้กำรยืดกล้ำมเน้อแบบอยู่กับท่ในช่วงสุดท้ำยของกำรออกก�ำลัง
                      ื
                                                                    ี
                                                        ื
                                                �
                                                              ื
                     ้
                                                         ้
                                                                                      ั
               กำย ใชเวลำประมำณ 5-10 นำท โดยจะทำกำรยืดกลำมเน้อส่วนบน (upper-body) ล�ำตว (Trunk)
                                         ี
               และส่วนล่ำงของร่ำงกำย (lower-body) ซึ่งสำมำรถท�ำได้ทั้งที่บริเวณขอบสระ หรือในสระน�้ำ
                                                                        การออกก�าลังกาย   109
   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121