Page 14 -
P. 14

์
                                         ิ
                                                           ิ
                                                ิ
                                                                           ั
                                ิ
                                                                                    ุ
                             ื
              โครงการหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร                  ี
                                                                                                       13

                                                                      ้
                           โรงแรมเล็ก ๆ ทีเรียกว่า “ทาเวิร์น” (Tavern) และโรงเตียม หรือ “Inn” มีการสร้างขึนใน  ปลายสมัย
                                        ่
                                                                                            ้
                  อาณาจักรโรมัน เพื่อให้บริการที่พักส าหรับนักเดินทาง เชน พวกพ่อค้า นักแสดง และปัญญาชน แตโรงแรมเหล่านี  ้
                                                             ่
                                                                                              ่
                                                                  ่
                                                                                         ่
                                     ่
                                                                           ่
                  ไม่ได้มาตรฐานและไม่คอยมีความสะดวกสบาย เชน บางแหงมีเฉพาะทีพักส าหรับคนแตไม่มีโรงพักม้า ตอมา
                                                                                                      ่
                                                           ่
                                                                   ู
                                                             ่
                                                 ้
                                     ุ
                  ชาวเปอร์เซียนได้พัฒนาธรกิจที่พักแรมขึนมาจนมีความรุงเรืองสงสุด โดยมีการจัดสร้างที่พักแรมที่เรียกว่า “คานส์”
                                                     ่
                  (Khans) ซึงมีทั้งการบริการทีพักและอาหารแกผ้เดินทาง
                          ่
                                                      ู
                                        ่
                                                                ่
                           มาร์โค โปโล (Marco Polo) ได้บันทึกเกี่ยวกับทีพักแรมระหว่างเดินทาง (Rest House) ว่ามีลักษณะ
                                                                                           ู
                  คล้าย ห้องชุด หรืออพาร์ตเมนต์ (Apartment) เรียกชือว่า ยัม “Yams” ตลอดเส้นทางไปสดินแดนตะวันออก
                                                                                           ่
                                                              ่
                                    ่
                                                                                          ่
                  มีมากกว่า 10,000 แหง แตละจุดหางกันประมาณ 25 ไมล์ ซึงใช้เวลาเดินทางระหว่างจุดตาง ๆ ในเวลา 1 วัน
                                                                   ่
                                        ่
                                              ่
                                                                      ้
                                ู
                                                                                          ่
                                                                                 ้
                                                                                               ่
                  จึงสะดวกส าหรับผ้เดินทางเพราะสามารถหยุดพักแรมตามจุดเหล่านีได้ นอกจากนีที่พักแรมแตละแหงได้จัดเตรียม
                  ม้าไว้ ส าหรับการสับเปลียนระหว่างเดินทางอีกด้วย
                                    ่
                           - อุตสาหกรรมการบริการในยุคกลาง
                                                            ่
                           แนวความคิดเกี่ยวกับการต้อนรับนักทองเทียวในยุคนี เปนการผสมผสานระหว่างความเชือทางศาสนา
                                                                                                ่
                                                                    ้
                                                                       ็
                                                        ่
                                                                                               ่
                  และความมีไมตรีในการต้อนรับ ซึงถือว่าคริสต์ศาสนิกชนทุกคนมีหน้าทีทีจะต้องแสดงน ้าใจตอนักทองเทียว และ
                                                                                                   ่
                                                                          ่
                                                                           ่
                                            ่
                                                                                          ่
                                                                                        ู
                                    ่
                   ู
                  ผ้จาริกแสวงบุญ แม้แตโบสถ์ของทางศาสนาเองก็ได้มีการจัดที่พักและอาหารบริการให้แกผ้เดินทางด้วย โดยแยก
                                                                                       ่
                                                                                      ิ
                                                     ่
                                                     ู
                  ส่วนที่พักของนักเดินทางออกจากบริเวณที่อยของพระและนักบวช เพื่อมิให้รบกวนสมาธในการปฏิบัติ ศาสนกิจ ที ่
                                          ็
                                    ้
                                                                                       ่
                  พักแรมที่สร้างตางหากนีเรียกเปนภาษากรีกว่า ชิโนโดเชียนส์ (Xenodocheions) แปลว่าทีพักแรมขนาด เล็ก หรือ
                              ่
                                       ่
                      ้
                  โรงเตียม (Inn) หรือสถานทีพักผ่อน (resting places)
                                                                                                       ่
                           ในสมัยของจักรวรรดิชาร์ลมาญ (Charlemagne) ได้ออกกฎหมายทีระบุว่าชาวคริสต์ทุกคนมีหน้าทีใน
                                                                                ่
                         ่
                                                                                       ่
                                                                                         ้
                                            ่
                  การจัดทีพักและอาหารบริการแกผ้เดินทาง โดยก าหนดให้พักได้ไม่เกินคนละ 3 คืน เพือปองกันการฉวยโอกาส
                                             ู
                                                          ้
                                                                                   ็
                                                                                     ุ
                                                   ่
                                                                                             ่
                  การบริการโรงแรมและเครื่องดื่มโดยไม่คิดคาใช้จ่ายนี ถือว่าเปนการท ากุศล มิได้ถือเปนธรกิจ จนตอมา ในราว ค.ศ.
                                                                 ็
                                                                                   ู
                  1282 (พ.ศ.1825) จึงได้เกิดแนวคิดในลักษณะธรกิจการบริการขึนเปนครั้งแรก โดยผ้ด าเนินการจัดหาที่พักในเมือง
                                                                      ็
                                                       ุ
                                                                   ้
                                                                                                      ุ
                  ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ได้รวมตัวกันเปนสมาคม (Guild) เพือจุดประสงค์ในการด าเนินการทางธรกิจ
                                                                       ่
                                                     ็
                                                                                ู
                                               ่
                             ้
                                                                                                ู
                                                                                                      ุ
                                                                           ่
                  แนวความคิดนีได้กระจายไปยังเมืองตางๆ อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมืองทีเปนศนย์กลางทางการค้าผ้ด าเนินธรกิจ
                                                                             ็
                                                                                                     ็
                                                                                                   ่
                                                                ่
                                ่
                  ในยุคนั้นส่วนใหญมักเปนชาวเยอรมันและชาวอิตาเลียน เนืองจากพ่อค้าและนักเดินทาง สมัยนั้นส่วนใหญเปนชาว
                                    ็
                          ู
                              ุ
                  เยอรมัน ผ้ท าธรกิจชาวเยอรมันจึงสามารถตอบสนองความต้องการของนักเดินทางเหล่านั้นได้ดีและทั้งยังพูดภาษา
                                                            ็
                                 ู
                  เดียวกัน ตลอดจนร้ขนบธรรมเนียมของพวกเดียวกันเปนอย่างดีอีกด้วย
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19