Page 113 -
P. 113

ิ
                               ื
                 โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                                                             ิ
                                                                 ิ
                                               ์
                                            ิ
                                                                                                 2-76

               ขนาดใหญของภาคตะวันออกจํานวน 6 แหง พบวา ปริมาณน้ําที่กักเก็บไดตั้งแตป 2556–2561 มีปริมาณ
                                                               
                                                                                            ้ํ
               เพิ่มขึ้นเฉลี่ยรอยละ 4.52 ตอป โดยปริมาณน้ําที่เก็บกักได  เมื่อเทียบกับความจุของอางเก็บนาสูงสุดรอย
               ละ 73.6ในป 2561 และตาสุดที่ รอยละ 50.2 ป 2559 สําหรับ ป 2561 ปริมาณนากักเก็บไดของภาค
                                     ่ํ
                                                                                     ้ํ
                                                                                              
                                                                       
               ตะวันออกเพิ่มขึ้นรอยละ 12.4 จากป 2560 โดยมีปริมาณเก็บกักได 1,187 ลานลูกบาศกเมตร หรือรอย
                                                             ้ํ
                                                                                                ั
                                                                                             
               ละ 73.6ของความจุอาง หรือรอยละ 5.0 ของปริมาณนาทา ถงกระนน ปริมาณนาที่เก็บกักไดก็ยงคงไม
                                                                                   ้ํ
                                                                         ั้
                                                                   ึ
                                      
               เพียงพอตอความตองการใชนาที่เพิ่มขน จากการเพิ่มขนของการผลิตภาคเกษตรที่ขยายตวเพิ่มขนมาก
                                        ้ํ
                                                                                          ั
                                               ึ้
                                                                                                ึ้
                                                             ึ้
                             ึ้
               ตามราคาที่สูงขนการขยายตวของภาคอุตสาหกรรม การทองเที่ยว และการเพิ่มขนของชมชนอยาง
                                                                                      ึ้
                                        ั
                                                                                                   
                                                                                             ุ
               ตอเนื่อง สงผลใหปญหาการขาดแคลนน้ําในหนาแลงยังคงอย
                                                                 ู
                              2.10.3 การพัฒนาเศรษฐกิจของภาคตะวันออกที่ผานมา ไดกอใหเกิดปญหาความเสื่อม
               โทรมของทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอม และคุณภาพชีวิตมากขึ้นตามลาดับ อาทิ การทําลายทรัพยากร
               ปาไมไดสงผลกระทบไปถึงปญหาความแปรปรวนของลมฟาอากาศ กอใหเกิดภาวะฝนแลงและนาทวมอย  ู
                                                                                              ้ํ
               เสมอโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และตราด นอกจากนี้ยังมีการจับสัตวน้ําโดยไมถูกวิธี ทําใหสัตวนา
                                                                                                     ้ํ
                                                                                                   
                                                                  
                                                                          ั
                                                                                                ื่
               ตามธรรมชาติลดลงอยางรวดเร็ว รวมทั้งพื้นที่ปาชายเลนในแตละจังหวดลดลงไปจากเดมมาก เนองจาก
                                                                                        ิ
               การบุกรุกเพื่อทํานากุง
                              2.10.4 แมวาภาคตะวันออกจะเปนแหลงเพาะปลูกผลไมหลักของประเทศ แตผลไมเปน
               ผลิตผลที่มีชวงระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว ดูแล รักษาจํากัด เมื่อพนกําหนดจะเสียหาย และเปนผลผลิตที่มี
                                                                     ้ํ
               ชวงฤดูกาล ไมสามารถผลิตออกไดตลอดป และหากเมื่อใดขาดนาก็จะทําความเสียหายใหแกสวนผลไม
                                            
                                                                  
               อยางรุนแรง ทําใหปริมาณผลผลิตไมแนนอน ไมมีเสถียรภาพดานราคา รวมทั้งยงขาดการบริหารจัดการ
                                                                                 ั
                                                                                                   ี้
               ในชวงที่ผลไมออกมามากและกระจุกตัวอยางเหมาะสมและทันเวลา ทําใหผลไมเนาเสียงาย นอกจากนยง
                                                                                                     ั
               ขาดการวิจัยและพัฒนาทั้งในดานการผลิตใหออกผลผลิตนอกฤดูการเก็บรักษา การลําเลียงถงที่หมายกอน
                                                                                           ึ
               การเนาเสียและมีปญหาเรื่องคุณภาพมาตรฐานไมสม่ําเสมอ เชน การคัดขนาด บรรจุหีบหอ แปรรูป และ
               เก็บรักษา
                                                 
                                              ั
                              2.10.5 การขยายตวอยางรวดเร็วของภาคอุตสาหกรรมที่ผานมา ทาใหเกิดภาวะขาด
                                                                                
                                                                                                ื่
                                                       
                                                           
                                                                
               แคลนแรงงาน ประกอบดวย แรงงานที่เคลื่อนยายเขาไมไดตอบสนองความตองการที่แทจริง เนองจาก
               สวนใหญเปนแรงงานระดบลาง ทําใหเกิดปญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะฝมือสาหรับการผลิต
                                      ั
               ภาคอุตสาหกรรมที่มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยสูงขน นอกจากนแรงงานที่มีฝมือจะพยายามเขาสู
                                                                         ี้
                                                         ี
                                                                                                   
                                                             ึ้
                                                                                      
               อุตสาหกรรมขนาดใหญที่ไดมาตรฐานและมีความมั่นคงตออนาคตในการทํางานมากกวา จึงเกิดปญหาการ
                                                                                              
                    
                                  ู
                                                                   ิ่
               โยกยายการทํางานอยในอัตราที่สูง ตลอดจนแรงงานในทองถนไมสามารถตอบสนองความตองการได        
               เพียงพอ
                              2.10.6 การขยายตัวทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกโดยเฉพาะอยางยิ่งดานการสงออก
                                                         
                                                                                           
                                                                 ึ้
               ซึ่งกําลังไดรับแรงกดดันจากมาตรการกีดกันที่ไมใชภาษเพิ่มขน เชน มาตรฐานการผลิตสินคา มาตรฐาน
                                                                      
                                                             ี
                                                                                                
               การดานความสะอาดและสุขอนามัย มาตรฐานแรงงาน มาตรฐานสิ่งแวดลอม และมาตรฐานดานทรัพยสินทาง
               ปญญา เปนตน ซึ่งไดมีการตงกฎเกณฑในการรับซื้อสินคาจากผูผลิตคอนขางมาก และมีการตรวจสอบ
                          
                                                               
                                       ั้
                                                                              
                                                                          
                                 
                                                           ั
                                                                    ั
                                                                                           
               คุณภาพอยางเขมงวด ดังนั้นเศรษฐกิจของกลุมจังหวดภาคตะวนออกที่พึ่งพาการสงออกอยางมาก จึงมี
                                                                                                  ั
               แนวโนมวาการสงออกจะมีอุปสรรคมากขึ้นในอนาคต หากผูผลิตหรือผูประกอบการไมสามารถปรับตวให
                                    ี้
               เขากับมาตรฐานเหลานจะสูญเสียโอกาสทางการตลาดไป สงผลใหผูประกอบการในกลุมจังหวดภาค
                 
                                                                                                ั
               ตะวันออกตองเรงปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตใหไดมาตรฐานและคุณภาพสินคาใหเปนที่ยอมรับระหวาง
                                                                                                   
               ประเทศ
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118