Page 109 -

ิ
ื
์
ิ
ิ
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ิ
2-72

2.8.2 ภาคเกษตร
ั
(1) ภาคตะวันออกมีมูลคาผลิตภณฑภาคเกษตร ณ ราคาประจําป พ.ศ. 2561 ประมาณ
ึ้

170,578 ลานบาท เพิ่มขนจาก 159,452 ลานบาท ในป 2557 ในชวง 5 ป (2557 -2561) ที่ผานมา
ั
ั
ภาคเกษตรของภาคตะวนออก มีอัตราการหดตวเฉลี่ยรอยละ 0.7 ในขณะที่ภาคเกษตรของประเทศมี
ั
ั

ั
อัตราการขยายตวเฉลี่ยรอยละ 0.5 ภาคเกษตรของภาคตะวนออกมีปญหาสําคญที่ตองเรงแกไขหลาย

ุ
ิ



ประการ เชน ปญหาคณภาพดนเสื่อมจากการใชสารเคมี และสารเคมีตกคางในผลผลิต เปนตน
ภาคเกษตรมีสัดสวนมูลคา ผลิตภัณฑคิดเปนรอยละ 5.6 ตอมูลคาผลิตภณฑภาคตะวนออก และรอยละ


ั
ั
12.8 ของมูลคาผลิตภัณฑภาคเกษตรของประเทศ
ั
(2) แหลงการทําเกษตรฯ ที่สําคญของภาคตะวนออก คอ จังหวดจันทบุรี มีสัดสวน
ั
ั
ื
การผลิตรอยละ 38.2 รองลงมา คอ ชลบุรี รอยละ 11.6 ระยอง รอยละ 11.1 และตราด รอยละ 11.0
ื
ปจจุบันพื้นที่เกษตรกรรมของภาคตะวันออกไดแปรเปลี่ยนไปเปนพื้นที่อุตสาหกรรมและที่อยอาศยมากขน

ั
ู
ึ้
ั
แตภาคตะวันออกก็ยังถือไดวาเปนแหลงผลิตสินคาเกษตรที่สําคญของประเทศแหงหนง ทั้งทางดานการ

ึ่
เพาะปลูก การทําปศุสัตว และประมงโดยสินคาเกษตรที่สําคัญของภาคตะวันออกมี ดังน
ี้
ั



(2.1) ขาวและพืชไรผลผลิตที่สําคญ ไดแก ขาวและมันสําปะหลัง จังหวดที่มี
ั
ั
พื้นที่ปลูกขาวนาปมากของภาค คือ จังหวัดสระแกว ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และนครนายก สวนจังหวดที่
มีพื้นที่ปลูกมันสําปะหลังมาก คือ จังหวัดสระแกว ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
(2.2) ผลไมที่สําคัญไดแก ทุเรียน จังหวัดที่เปนแหลงปลูกทุเรียนในภาคที่สําคัญ
ื
ั
คอ จังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด มังคด แหลงปลูกที่สําคญ คอ จังหวดจันทบุรี ตราด และระยอง
ื
ุ
ั
ั
ื
ลําไยแหลงปลูกลําไยที่สําคัญ คือ จังหวัดจันทบุรี เงาะ แหลงปลูกที่สําคัญ คอ จังหวดจันทบุรี และตราด
ลองกองแหลปลูกลองกองที่สําคัญ คือ จังหวัดจันทบุรี
ั
ั
ื

ื้

(2.3) ปศสัตวไดแก ไกเนอ แหลงเลี้ยงที่สําคญ คอ จังหวดชลบุรี ปราจีนบุรี
ุ
ฉะเชิงเทรา และระยอง ไกไข แหลงเลี้ยงที่สําคัญ คือ จังหวดฉะเชงเทรา ชลบุรี และนครนายก เปดเนอ
ื้
ิ
ั
แหลงเลี้ยงที่สําคัญ คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง และปราจีนบุรี เปดไข แหลงเลี้ยงที่สําคญ คอ จังหวด
ั
ื
ั
ฉะเชิงเทราและชลบุรี และสุกรแหลงเลี้ยงที่สําคัญ คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา และชลบุรี
้ํ
(2.4) ประมงภาคตะวันออกมีศักยภาพในการทําการประมงและเพาะเลี้ยงสัตวนา

ื
โดยจังหวัดที่มีมูลคาผลิตภัณฑประมงและการเพาะเลี้ยงสัตวน้ําสูงที่สุดของภาค คอ ชลบุรี รองลงมา คอ
ื
ตราด ระยอง และจันทบุรี
(2.5) พื้นที่ชลประทานตอพื้นที่เกษตรของภาคตะวนออกตากวาคาเฉลี่ย
่ํ

ั


ประเทศ โดยมีสัดสวนรอยละ 21.6 ซึ่งต่ํากวาของประเทศที่มีสัดสวนรอยละ 22.5 พื้นที่ชลประทานของ
ภาคตะวนออกในป 2561 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2.78 ลานไร คดเปนรอยละ 8.3 ของพื้นที่
ั
ิ
ชลประทานทั้งประเทศ


ั
(2.6) เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรียในพื้นที่ยงมีไมมากนก จากขอมูลการ
ั
ตรวจรับรอง เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรียของกรมวิชาการเกษตร ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 พบวาภาค
ั
ตะวันออกมีพื้นที่ไดรับการรับรองแหลงผลิตสินคาเกษตรปลอดภัยรวมทั้งสิ้น 242,688.44 ไร โดยจังหวด
ในภาคตะวันออกที่มีพื้นที่ไดรับการรับรองแหลงผลิตสินคาเกษตรปลอดภยมากที่สุด คอ จังหวดจันทบุรี
ั
ื
ั
ื
ั
ั

รองลงมา คอ จังหวดตราดและระยอง และเกษตรอินทรีย 1,139.04 ไร โดยจังหวดที่มีพื้นที่ไดรับการ

รับรองแหลงผลิต สินคาเกษตรอินทรียมากที่สุด คือ จังหวัดระยอง รองลงมา คือ จังหวัดจันทบุรี และตราด