Page 50 -
P. 50
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2.4 สมบัติดินทางกายภาพ
จากผลการวิเคราะห์สมบัติดินพบว่า เนื้อดินโดยส่วนใหญ่เป็นดินร่วนเหนียวปนทราย (sandy clay loam)
ดินเป็นกรดจัด ไปจนถึงด่างอ่อน โดยดินชั้นบนมีค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH) ตั้งแต่ 4.6-7.6 ดินล่างมีค่า pH ตั้งแต่
4.5-7.8 วิเคราะห์ความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่เกษตรกรรมพบว่าปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีค่าตั้งแต่ระดับต่ำมากไป
จนถึงระดับสูง โดยดินชั้นบนมีปริมาณอินทรียวัตถุตั้งแต่ 0.46-3.89 % และดินล่างมีปริมาณอินทรียวัตถุตั้งแต่ 0.18-3.62
% และพบว่าดินบนมีปริมาณอินทรียวัตถุสูงกว่าดินล่างในเกือบทุกจุดที่ทำการเก็บตัวอย่าง และเมื่อพิจารณาปริมาณ
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน (Available P) พบว่าปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินมีค่าตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึง
สูง โดยดินบนมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ระหว่าง 1.4-19.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในขณะที่ดินล่างพบปริมาณ
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ระหว่าง 1.4-52.6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และจะพบว่าดินล่างมีปริมาณฟอสฟอรัส
ที่เป็นประโยชน์สูงกว่าดินบน
สรุปผลการทดลองและข้อเสนอแนะ
1. มีการปนเปื้อนของสารหนู ตะกั่วและแคดเมียมในพื้นที่เกษตรกรรมทั้งสองฝั่งตลอดลำน้ำ โดยพบว่าสารหนู
ทั้งหมดในดินมีค่าเกินค่ามาตรฐานคุณภาพดินที่ใช้เพื่ออยู่อาศัยและเกษตรกรรมของประเทศไทย ที่ 3.9 มิลลิกรัมต่อ
กิโลกรัม ในขณะที่ตะกั่วและแคดเมียมนั้นมีค่าต่ำกว่าค่ามาตรฐานของ European Economic Community (EEC)
ที่ 100 และ 3.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมตามลำดับ ทั้งในดินชั้นบนและดินชั้นล่าง ซึ่งการปนเปื้อนสารหนูในพื้นที่นี้อาจส่งผล
ไปถึงคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรด้วย จึงควรมีการตรวจสอบการปนเปื้อนในพืชผลทางการเกษตร และพิจารณาถึง
ความปลอดภัยในการบริโภคผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกในพื้นที่ด้วย
2. น้ำจากแม่น้ำที่ล้นตลิ่งในฤดูฝนและน้ำที่ถูกนำมาใช้เพื่อการเกษตรในพื้นที่เกษตรกรรมทั้งสองฝั่งแม่น้ำ
มีผลต่อการกระจายตัวของธาตุโลหะหนักในพื้นที่นี้
3. สารหนูที่ปนเปื้อนในดินในพื้นที่เกษตรกรรมที่ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างมา มีค่าอยู่ในระดับสูงทางด้านทิศเหนือ
ของเหมืองแร่ทองคำและบางส่วนของพื้นที่ทิศตะวันออกติดชุมชนเมือง เป็นพื้นที่ที่ต่ำกว่าฝั่งตรงกันข้ามของลำน้ำซึ่งเป็น
แปลงยางพารา
การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาในครั้งนี้ เป็นข้อมูลทางวิชาการที่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาวิธีป้องกันไม่ให้ดินเสื่อม
โทรมเนื่องจากการปนเปื้อนของโลหะหนัก ตลอดจนวางแผนในการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
เพื่อการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนของโลหะหนักในดินและผลิตผลของพืชต่อไป ตลอดจนนักวิชาการเกษตรสามารถ
นำไปใช้ในการพัฒนางานวิจัยด้านการลดมลพิษทางดินในพื้นที่การเกษตรกรรมได้
42