Page 237 -
P. 237

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



               มีน้ำหนักผลไม่แตกต่างกันทางสถิติ การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและพืชมีน้ำหนักเปลือกสูงสุด ส่วนน้ำหนักเนื้อ เมล็ด
               และขั้วผลพบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ สำหรับฤดูกาลผลิต 2562 การใส่ปุ๋ยทั้ง 3 กรรมวิธี มีองค์ประกอบของ
               ผลผลิต ได้แก่ น้ำหนักเปลือก เนื้อ เมล็ดและขั้วผล ไม่แตกต่างกันทางสถิต เมื่อพิจารณาปริมาณผลผลิตและคุณภาพ

               ผลผลิต พบว่าการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและพืชมีปริมาณผลผลิตสูงที่สุดทั้ง 2 ฤดูกาลผลิต ขณะที่คุณภาพผลผลิต
               ไม่แตกต่างกันทางสถิติ เมื่อประเมินผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พบว่า การใส่ปุ๋ย
               ตามค่าวิเคราะห์ดินและพืชให้ผลตอบแทนสูงกว่าการใส่ปุ๋ยตามที่เกษตรกรปฏิบัติ 16 เปอร์เซ็นต์ และสามารถลด
               ต้นทุนปุ๋ยได้ 12 เปอร์เซ็นต์
               คำหลัก: ทุเรียน การวิเคราะห์ดินและพืช การจัดการปุ๋ย

                                                          คำนำ
                       ทุเรียน (Durio zibethinus Murr.) เป็นไม้ผลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงและมีการส่งออก
               เพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดประเทศจีนที่มีความ
               ต้องการบริโภคทุเรียนสดจากประเทศไทยส่งผลให้ราคาส่งออกทุเรียนสดและผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับสูงทำให้มูลค่าการ
               ส่งออกเพิ่มขึ้น (สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร, 2562ก)  ในปี 2562 ประเทศไทยมีเนื้อที่ให้ผลผลิตทุเรียน 726,475
               ไร่ ปริมาณผลผลิต 1,013,741 ตัน โดยมีแหล่งปลูกสำคัญอยู่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งแหล่งปลูก 5 อันดับแรก
               ได้แก่ จันทบุรี ชุมพร ระยอง สุราษฎร์ธานีและยะลา (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2562ข) อย่างไรก็ตามการ
               พัฒนาการผลิตทุเรียนยังคงมีปัญหาและข้อจำกัดในด้านการจัดการเทคโนโลยีการผลิตที่ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของ
               เกษตรกร
                       ปัจจุบันสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ใช้ในการเพาะปลูกมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งภาวะการ

               เปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตพืช จึงมีความเป็นต้องพึ่งพาการใช้ปุ๋ยเคมี
               เพื่อเพิ่มปริมาณธาตุอาหารในดินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Bruulsema et al. (2012) กล่าวว่า การจัดการปุ๋ยที่เหมาะสม
               ต้องอาศัยหลัก 4R Nutrient Stewardship Concept ได้แก่ ชนิดของปุ๋ยเคมี (right source) ปริมาณหรืออัตราการ
               ใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม (right rate) ระยะเวลาของการใส่ปุ๋ย (right time) และตำแหน่งของการใส่ปุ๋ย (right place) ซึ่ง
               การนำหลักการดังกล่าวมาใช้ต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการธาตุอาหารระหว่างการ
               เจริญเติบโตของพืชจึงจะทำให้การใช้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพและเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
               และลดต้นทุนการผลิตได้ เช่นเดียวกับ Lang et al. (1999) รายงานว่า การใส่ปุ๋ยทุกชนิดจำเป็นต้องคำนึงถึงความ
               คุ้มค่าและการตอบสนองของพืชตลอดจนคุณภาพของผลผลิต โดยการให้ปุ๋ยควรพิจารณาถึงธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน
               การสูญเสียธาตุอาหารทางดินและศักยภาพของพืชในการดูดใช้ธาตุอาหารด้วย ดังนั้นการทดลองนี้จึงมีวัตถุประสงค์
               เพื่อศึกษาผลตอบสนองต่อปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและพืชโดยกำหนดอัตราปุ๋ยจากผลการวิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหาร
               ในดินและผลการประเมินความต้องการธาตุอาหารของทุเรียนพันธุ์หมอนทองเปรียบเทียบกับการใส่ปุ๋ยตามที่เกษตรกร
               ปฏิบัติและการใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำลักษณะเนื้อดินเพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและ
               ช่วยลดการใส่ปุ๋ยมากเกินความจำเป็น

                                                      วิธีดำเนินการ
               อุปกรณ์
                      1. ต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 15 ต้น
                      2. อุปกรณ์เก็บตัวอย่างดิน ได้แก่ สว่านเจาะดิน ถังพลาสติกและถุงพลาสติกเก็บตัวอย่างดิน
                      3. อุปกรณ์เก็บตัวอย่างพืช ได้แก่ กรรไกรตัดกิ่งและถุงพลาสติก
                      4. ปุ๋ยเคมี ได้แก่ ปุ๋ย 15-0-0, 8-24-24, 15-15-15, 13-9-25 และ 0-0-50
                      5. ตู้อบลมร้อน

                      6. เครื่องบดตัวอย่างพืช

                                                          229
   232   233   234   235   236   237   238   239   240   241   242