Page 232 -
P. 232
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
4. การทดสอบความเป็นปฏิปักษ์กับเชื้อสาเหตุโรคพืชและเชื้อไรโซเบียมในระดับโรงเรือน
เมื่อศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเส้นใยและสปอร์ของ Streptomyces sp. WF 4-1 และ
Streptomyces sp. RF 12-4 ภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (Scanning Electron Microscopy,
SEM) พบว่ามีการสร้างสปอร์แบบเวียนเกลียว (spiral) (Figure 5) เมื่อนำ Streptomyces sp. WF 4-1 และ
Streptomyces sp. RF 12-4 มาทดสอบความเป็นปฏิปักษ์กับเชื้อสาเหตุโรคพืชคือ รา Sclerotium rolfsii และแบคทีเรีย
Erwinia carotovora pv. carotovora ร่วมกับการปลูกเชื้อไรโซเบียม พบว่า ต้นกล้าถั่วเขียวมีอาการเน่าตายเมื่อได้รับ
การปลูกเชื้อรา S. rolfsii แม้จะปลูกเชื้อแอคติโนมัยสีท Streptomyces sp. WF 4-1 ร่วมด้วย ส่วนต้นกล้าที่มีการปลูก
เชื้อ Streptomyces sp. RF 12-4 มีการเกิดโรคปานกลางในระดับ 2 ส่วนการปลูกเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคพืช
E. carotovora pv. carotovora ทำให้ต้นกล้าถั่วเขียวเกิดโรคเล็กน้อยในระดับ 1 แต่ความสูงของต้น น้ำหนักสด ความ
ยาวรากและจำนวนปมรากของแต่ละกรรมวิธี ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (Table 8) สอดคล้องกับงานวิจัยของ Ara et
al. (2012) พบว่า เมื่อทำการทดลองในกระถาง ประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อก่อโรคพืชของเชื้อแอคติโนมัยสีทมีความ
แปรผัน จึงต้องทำการทดสอบการปลูกเชื้อในรูปแบบน้ำเลี้ยง หรือสารสกัดแบบหยาบร่วมด้วย เพื่อศึกษาประสิทธิภาพ
ของแอคติโนมัยสีทให้คลอบคลุมมากกว่าขึ้นว่าสารปฏิชีวนะที่เชื้อสร้างขึ้นอยู่ในส่วนน้ำเลี้ยง สารสกัดแบบหยาบ หรือชีว
มวลของเชื้อแอคติโนมัยสีท
Figure 5 Characteristics of hyphae and spores of actinomycetes A) Streptomyces sp. WF 4-1 and
B) Streptomyces sp. RF 12-4 under scanning electron microscope.
224