Page 172 -
P. 172

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



                                                          บทคัดย่อ

                        ผลของการวัสดุอินทรีย์ที่มีแทนนินเป็นองค์ประกอบในการยับยั้งกระบวนการไนตริฟิเคชั่น (Nitrification)
               ของปุ๋ยไนโตรเจนด้วยการปลูกข้าวโพดหวาน ปีที่ 1 ในพื้นที่ดินเหนียว ที่ศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชลพบุรี จังหวัดลพบุรี
               วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 4 ซ้ำ 5 กรรมวิธี พบว่า การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-5 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ที่คลุกเปลือก
               มังคุดบดอัตรา 3.22 กก./ไร่ ให้ผลผลิตข้าวโพดหวานสูงสุด รองลงมาได้แก่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-5 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่
               การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-5 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กก./ไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 10-5-5
               N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กก./ไร่ และการใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 0-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่
               ตามลำดับ และในพื้นที่ดินร่วนทราย แปลงเกษตรกร ตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พบว่า การใส่ปุ๋ยเคมี
               อัตรา 20-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กก./ไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมาได้แก่ การใส่
               ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบด
               อัตรา 3.22 กก./ไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 10-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กก./ไร่ และการ
               ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 0-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ตามลำดับ
                        ปีที่ 2 วางแผนการทดลองแบบ Split plot in RCB จำนวน 3 ซ้ำ ประกอบด้วยปัจจัยหลัก (Main plot) เปลือก
               มังคุด จำนวน 3 กรรมวิธี ปัจจัยรอง (Sub plot) ปุ๋ยเคมี จำนวน 4 กรรมวิธี พบว่า ในพื้นที่ดินเหนียว ปัจจัยหลักไม่มี
               ความแตกต่างกันทางสถิติ โดยการคลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กก./ไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมาได้แก่ การไม่คลุก

               เปลือกมังคุดบด และการคลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 15.78 กก./ไร่ ตามลำดับ ในขณะที่ปัจจัยรองมีความแตกต่างทางสถิติ
               ของการใส่ปุ๋ย โดยการใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-5 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมาคือ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา
               20-5-5 10-5-5 และ 0-5-5 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ตามลำดับ และในพื้นที่ดินร่วนทราย ปัจจัยหลักไม่มีความแตกต่างกัน
               ทางสถิติ โดยการไม่คลุกเปลือกมังคุดให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมาคือ การคลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 15.78 กก./ไร่ และการ
               คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กก./ไร่ ตามลำดับ ในขณะที่ปัจจัยรองมีความแตกต่างกันทางสถิติของการใส่ปุ๋ย โดยการ
               ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมาได้แก่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-10 10-5-10
               และ 0-5-10 N-P 2O 5-K 2O กก./ไร่ ตามลำดับ
               คำสำคัญ : วัสดุอินทรีย์ แทนนิน กระบวนการไนตริฟิเคชั่น เปลือกมังคุด

                                                           คำนำ
                        กระบวนการไนตริฟิเคชั่น (Nitrification) คือ กระบวนการย่อยสลายแอมโมเนียมไอออนหรือก๊าซแอมโมเนีย
               ภายใต้สภาวะที่ใช้ออกซิเจนกลายเป็นไนเทรต จึงทำให้เกิดการสูญเสียไนโตรเจนในรูปของไนเทรตไปจากดิน ดังนั้นจึงต้องยืด
               ระยะเวลาให้ไนโตรเจนอยู่ในรูปแอมโมเนียมในดินให้ได้นานมากยิ่งขึ้น โดยการใช้สารยับยั้งไนตริฟิเคชัน (nitrification
               inhibitors) การผลิตปุ๋ยละลายช้าในเชิงที่ทำการค้าแล้วมีราคาแพงมาก เช่น ยูเรียเคลือบกำมะถัน (Sulfur coated urea )
               และปุ๋ย NPK เคลือบโพลิเมอร์ ที่ใช้กับสนามกอล์ฟและไม้ดอกไม้ประดับ อนึ่งในประเทศอินเดียได้ทำการศึกษาการเคลือบเม็ด

               ปุ๋ยยูเรียด้วยวัสดุต่างๆ เช่น ครั่ง แชลแล็ค หินฟอสเฟต ยิบซั่มฯลฯ แต่ปรากฎว่า ต้นทุนการผลิตสูงกว่าการใช้ยูเรียธรรมดา
               10 -15 % (Tandon, 1987) การผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตจริงๆ จะต้องผสมกับวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น กากสะเดา
               เปลือกมังคุดฯลฯ ซึ่งมีสมบัติยังยั้งกระบวนการ nitrification (เรวดี, 2543 และ มะลิวัลย์, 2541) ตลอดจนการนำปุ๋ยเคมีหรือ
               ปุ๋ยอินทรีย์ไนโตรเจนสูงมาผสมกับวัสดุที่เหลือใช้หรือปุ๋ยที่เป็นกรด และจากแนวคิดในการใช้สารยังยั้งเพื่อลดการสูญเสีย
               แอมโมเนียในมูลไก่ โดยหยุดกิจกรรมจุลินทรีย์ที่จะเปลี่ยนกรดยูริกในก๊าซแอมโมเนียและการใช้สารดูดซับแอมโมเนีย
               (absorbent) ต่างๆ ต่อจากนั้นทำให้เป็นกลาง (Carlile, 1984) นอกจากนี้การใส่สารที่มี CEC สูงเช่น Zeolite ฮิวมิกแอซิด
               ช่วยดูดซับและลดการสูญเสียปุ๋ย เท่ากับได้เพิ่มความเป็นประโยชน์และลดมลภาวะของปุ๋ยต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย มะลิวัลย์
               (2538) ศึกษาผลของเปลือกมังคุดต่อการเปลี่ยนแปลงไนโตรเจนในดินทรายชุดมาบบอน พบว่า เปลือกมังคุดบดผสมกับดิน มี
               ผลโดยตรงต่อการปลดปล่อยไนโตรเจนในดิน โดยปริมาณของเปลือกมังคุดที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปฏิภาคกลับกับปริมาณไนโตรเจนที่
               ปลดปล่อยออกมา (NH 4 - N + NO 3  - N) เป็นประโยชน์ต่อพืชไม่ว่าจะคลุกดินด้วยปุ๋ยเคมี ปุ๋ยพืชสด หรือปุ๋ยพืชสดร่วมกับ
                                           -
                                  +
               ปุ๋ยเคมี ในกรณีของปริมาณไนโตรเจนทั้งหมด (Total Nitrogen) ในดินนั้น ปริมาณเปลือกมังคุดมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ

                                                          164
   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177