Page 112 -
P. 112

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




               สามารถดูดซับไว้ได้ ทำให้ปริมาณน้ำส่วนหนึ่งสูญหายไปโดยการไหลบ่า (runoff) ก็จะมีผลทำให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำ
               ของพืชลดลงได้

               ตารางที่ 14  ประสิทธิภาพการใช้น้ำของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ลูกผสมอายุเก็บเกี่ยวยาวในสภาพที่มีอัตราการให้น้ำ
                           ต่างกัน ณ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ปี 2562
                                         ประสิทธิภาพการใช้น้ำ (กิโลกรัมผลผลิต ต่อน้ำ 1 มิลลิเมตร)
                       พันธุ์ (b)           น้ำฝน           ให้น้ำ 50%ETc   ให้น้ำ 100%ETc        เฉลี่ย
                                       (475.9 มิลลิเมตร) (619.9 มิลลิเมตร)    (763.9 มิลลิเมตร)

                 พันธุ์ NSX102005           1.69               1.40              1.31            1.47 b
                 พันธุ์ NSX112017           1.52               1.33              1.16            1.34 c
                 พันธุ์ NS3                 1.55               1.52              1.31            1.46 b
                 พันธุ์ CP888New            1.88               1.75              1.55            1.73 a

                  เฉลี่ย                    1.66 a            1.50 b            1.33 c            1.50
               CV (การให้น้ำ) 5.97%, CV (พันธุ์) 8.26%, F-test : การให้น้ำ (P<0.01), พันธุ์ (P<0.01), การให้น้ำxพันธุ์ (ns)
               ค่าเฉลี่ยที่ตามด้วยตัวอักษรเหมือนกันในคอลัมน์เดียวกัน ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P>0.05) โดย DMRT
                                        สรุปผลการทดลองและข้อเสนอแนะ/คำแนะนำ
                        ปริมาณน้ำที่ข้าวโพดได้รับมีผลต่อการให้ผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ ข้าวโพดที่ปลูกโดยอาศัยน้ำฝนได้รับปริมาณ

               น้ำฝนตลอดฤดูปลูก 475.9 มิลลิเมตร ให้ผลผลิตเฉลี่ย 790 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เมื่อข้าวโพดได้รับน้ำเสริม 50 เปอร์เซ็นต์ของ
               ความต้องการน้ำ หรือได้รับปริมาณน้ำตลอดฤดูปลูก 619.9 มิลลิเมตร ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 930 กิโลกรัมต่อไร่
               หรือสามารถยกระดับผลผลิตได้ 17.72 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อข้าวโพดได้รับน้ำเสริม 100 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการน้ำ
               หรือได้รับปริมาณน้ำตลอดฤดูปลูก 763.9 มิลลิเมตร ทำให้ได้ผลผลิตเฉลี่ย 1,019 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสามารถยกระดับ
               ผลผลิตได้ 35.87 เปอร์เซ็นต์  อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพการใช้น้ำของข้าวโพดกลับพบว่าเมื่อให้น้ำใน
               ปริมาณมากขึ้นประสิทธิภาพการใช้น้ำของข้าวโพดจะลดลง ทั้งนี้ต้องพิจารณาปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูปลูกประกอบด้วย
               หากมีฝนตกในปริมาณมากเกินกว่าความสามารถของดินในการดูดซับไว้ได้ ทำให้น้ำส่วนเกินสูญหายไปด้วยการไหลบ่า
               ก็จะมีผลทำให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำลดลง
                        ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ลูกผสมทั้ง 4 พันธุ์ ที่ปลูกในชุดดินสมอทอด มีศักยภาพการให้ผลผลิตแตกต่างกัน โดย
               พันธุ์ซีพี 888 นิว ให้ผลผลิตและมีประสิทธิภาพการใช้น้ำสูงสุด โดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,054 กิโลกรัมต่อไร่ และมี
               ประสิทธิภาพการใช้น้ำเฉลี่ย 1.73 กิโลกรัมต่อปริมาณน้ำที่ได้รับ 1 มิลลิเมตร ในขณะที่พันธุ์นครสวรรค์ 3 และพันธุ์
               NSX102005 ให้ผลผลิตและมีประสิทธิภาพการใช้น้ำรองลงมา โดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 894 และ 890 กิโลกรัมต่อไร่ และมี
               ประสิทธิภาพการใช้น้ำ เฉลี่ย 1.46 และ 1.47 กิโลกรัมต่อปริมาณน้ำที่ได้รับ 1 มิลลิเมตร  ตามลำดับ ส่วนพันธุ์
               NSX112017 ให้ผลผลิตและมีประสิทธิภาพการใช้น้ำต่ำสุด โดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 813 กิโลกรัมต่อไร่ และมีประสิทธิภาพ

               การใช้น้ำ เฉลี่ย 1.34 กิโลกรัมต่อปริมาณน้ำที่ได้รับ 1 มิลลิเมตร
                                              การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
                        นักวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถนำข้อมูลประสิทธิภาพการใช้น้ำของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปใช้ใน
               การประเมินพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีความทนทานแล้งต่อไปได้






                                                          104
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117