Page 38 -
P. 38

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
          จารึกชีวิต




          จอมพล ถนอม กิตติขจร ขอให้ผมเป็นปลัดทบวงแล้ว สำาคัญอยู่ที่ว่าผมจะรับหรือไม่ ผมไม่รู้
          จะทำาอย่างไร เมื่อไปตกลงกันแล้วอย่างนั้น ก็เลยต้องไปอยู่ทบวง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕


                คำาถาม  : จริงๆ อาจารย์ก็ไม่ได้อยากเป็นปลัดทบวงใช่หรือไม่

                ตอบ      :  ไม่ได้อยากเป็น เมื่อเป็นรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว
          ก็มีคนบอกว่า  ถึงเวลาจะต้องเป็นอธิการบดีแล้ว  ผมก็ไม่ต้องการ  จึงไปขอท่านจักรฯ

          (พระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ)  ซึ่งขณะนั้นเป็นอธิบดีกรมการข้าว
          ให้มาเป็นอธิการบดี แล้วผมก็เป็นรองอธิการบดีอยู่ คือผมไม่ชอบการบริหาร ชอบแต่สอน

          หนังสืออย่างเดียว อีกอย่างหนึ่งคือ ไม่อยากรักษาการ เพราะถ้ารักษาการแล้ว คนที่จะขึ้น
          มาเป็นตัวจริงก็ไม่ได้ขึ้น เหมือนเราไปกดหัวเขาอยู่อย่างนั้น จึงไม่อยากจะรักษาการ แต่พอ

          เข้ารับราชการก็ต้องรักษาการจนเกษียณ อยู่สภาพัฒนาเศรษฐกิจฯ บ้าง สภาวิจัยฯ บ้าง
          คุณป๋วย (ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์) ก็มาขอให้เป็นคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์

          มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมก็ไม่ยอมไป ท่านจึงให้ไปเป็นหัวหน้าส่วนรายได้ประชาชาติ
          ที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจฯ อีก ๙ เดือนต่อมา ก็มีคนจบปริญญาเอกมา ๓ คน ผมก็เลยขอ

          ถอนตัว แต่ที่จริง ในขณะนั้นผมก็ประจำาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่ยอมย้ายไปที่ไหน
          แม้ว่าจะให้เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ไม่ยอม ไปเชิญท่านจักรฯ มาเป็น

          คือไม่อยากบริหารและไม่อยากรักษาการ แต่พอต่อมาก็ต้องบริหารจนเกษียณ

                คำาถาม  : แล้วตอนเป็นปลัดทบวง มีเรื่องยุ่งยากอะไรบ้างหรือไม่

                ตอบ      :  ก็มีการเดินขบวนของนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ตลอด

          เวลา

                คำาถาม  : แล้วเรื่องการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย

                ตอบ      :  ตอนนั้นรัฐบาลจะเอาทบวงมหาวิทยาลัยไปไว้กระทรวงศึกษาฯ ผมก็เลย

          ไปหาพลเอกบุญเรือนบอกว่า ถ้าเอาทบวงมาอยู่กระทรวงศึกษาฯ แล้วจะให้เป็นอะไร
          เขาบอกว่าจะให้เป็นกรม ผมก็เลยไม่ยอมไปอยู่ที่กระทรวงศึกษาฯ เป็นทบวงมีอิสระอยู่

          ต่างหาก คือ ตอนนั้นมีปัญหาว่า ในช่วงระหว่างปฏิวัติ มหาวิทยาลัยคิดเห็นว่าไม่มีเสรีภาพ
          ทางวิชาการ ไม่มีอิสระ ก็เลยรวมกลุ่มกันแล้วบอกว่า ขอให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

          โดยไม่ใช้เงินงบประมาณ แต่ให้รัฐบาลให้เงินอุดหนุนส่วนหนึ่ง แล้วมหาวิทยาลัยก็จะมีอิสระ
          ไม่อยู่ในระบบราชการ

                คำาถาม  : อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้อาจารย์สนใจมาศึกษาด้านจารึก






          36
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43