Page 36 -
P. 36
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จารึกชีวิต
ตอบ : เมื่อกลับมาก็เริ่มงานสอนที่วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ซึ่งเปิดเป็นปีแรก
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ การสอนวิชาเกษตรในสมัยนั้น ยังไม่เคยมีการสอนชั้นประถมทางเกษตร มัธยม
ทางเกษตร และปริญญาตรีทางเกษตรเลย ดังนั้นใน พ.ศ. ๒๔๘๒ วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
จึงเปิดสอนอนุปริญญาในวิชาวนศาสตร์ เกษตร สหกรณ์ และประมง รวม ๔ สาขาด้วยกัน
ในช่วงก่อนหน้านั้นคือ พ.ศ. ๒๔๗๕ ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆ
คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ) เห็นว่าควรจะต้องมีการศึกษาชั้นประถมและมัธยม
ทางการเกษตร ซึ่งแต่ก่อนยังไม่มี ใน พ.ศ. ๒๔๗๕ - ๒๔๗๖ จึงเตรียมเปิดที่แม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
และเปิดสอนใน พ.ศ. ๒๔๗๗ โดยขั้นแรกให้เรียนครึ่งวันและทำางานครึ่งวัน คนไหนที่พ่อแม่
เอาไม่อยู่ก็ส่งไปดัดสันดานที่แม่โจ้ เป็นโรงเรียนดัดสันดานด้วย
คำาถาม : แปลว่าที่แม่โจ้นี่เป็นนักเรียนประจำา
ตอบ : จบมัธยม ๔ สามัญ ก็ไปเรียน ๕, ๖, ๗ การเกษตรที่แม่โจ้ พอจบแล้วก็มาต่อ
ที่วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ซึ่งเริ่มขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๘๒ มี ๔ สาขาดังที่กล่าวไปแล้ว ก็เป็นขั้น
อนุปริญญา จนกระทั่งเปิดเป็นมหาวิทยาลัยใน พ.ศ. ๒๔๘๖ ก็เลยมีคณะต่างๆ เกิดขึ้น พวกรุ่นพี่
ก็พยายามที่จะเปิดสอนการเกษตรให้ครอบคลุมทุกด้าน เมื่อถึงรุ่นน้อง คือรุ่นผมก็พยายาม
ผลักดันให้เปิดเป็นมหาวิทยาลัยที่แท้จริงคือ ให้มีทุกสาขาวิชา เช่น เศรษฐศาสตร์ ศิลปศาสตร์
ให้ครบถ้วนทุกวิชา และให้มีวิทยุกระจายเสียงเพื่อส่งเสริมความรู้แก่ชาวบ้าน ซึ่งผู้ใหญ่
ไม่เห็นด้วย บอกว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ แต่ผมขอให้เปิดเพราะหน้าที่ของ
วิทยาลัยเกษตรฯ เมื่อเรียนรู้มาแล้ว ก็มีหน้าที่ส่งเสริมให้ถึงมือประชาชนด้วย รุ่นน้องอย่างผม
จึงเสนอให้เปิดคณะเศรษฐศาสตร์ เปิดบัณฑิตวิทยาลัย คือทำาให้เป็นมหาวิทยาลัยอย่าง
แท้จริง มีครบถ้วนทุกสาขาวิชา ในขณะนั้นก็มีอาจารย์อุบล (ศาสตราจารย์ ดร.อุบล
เรียงสุวรรณ) มาจากจุฬาฯ พาข้าราชการครูมาด้วย ราว ๒๖ - ๒๘ คน ก็เลยมาเปิดเป็น
คณะศึกษาศาสตร์ขึ้นได้
คือพวกรุ่นพี่ก็อยากจะเปิดแต่ด้านเกษตรอย่างเดียวให้ครบถ้วนก่อน แต่ผมก็ถือว่า
เป็นหน้าที่ อย่างเมืองนอกถือว่า มหาวิทยาลัยเกษตร มีหน้าที่ต้องส่งเสริมการเกษตรด้วย เมื่อเรา
เรียนรู้แล้วก็มีหน้าที่ต้องเผยแพร่ให้ประชาชนได้รู้ด้วย เราก็ต้องจัดให้เป็นอย่างนั้น แล้วก็มา
เปิดให้มีวิทยุกระจายเสียง มีคุณพร เรศานนท์ เป็นบุตรของคุณหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ
(ทองดี เรศานนท์) ที่มาทำาเรื่องเกี่ยวกับการส่งเสริมการเกษตร ซึ่งทางผู้ใหญ่ของเราไม่เห็นด้วย
เพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องเสียเวลาเสียผู้คน
ไปทำาเรื่องส่งเสริมการเกษตร แต่ผมเห็นว่า หากดูจากความมุ่งหมายของการเปิดสอน
มหาวิทยาลัยการเกษตรในอเมริกา มีหน้าที่จะต้องเอาความรู้เผยแพร่ไปสู่ประชาชนด้วย
ผมจึงได้พยายามให้เปิดขึ้นและผลักดันให้เป็นมหาวิทยาลัยอย่างสมบูรณ์เต็มรูปแบบ
34
