Page 22 -
P. 22
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
20 Thai J. For. 35 (1) : 11-23 (2016)
เขตขอบป่าด้านนอกหรือบริเวณพื้นที่สวนป่าสัก เนื่องจาก 139 ชนิด 106 สกุล 44 วงศ์ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณขอบป่า
พื้นที่บริเวณนี้มีเรือนยอดที่เปิดโล่ง ท�าให้มีปริมาณ หรือแนวรอยต่อป่ามีการสืบต่อพันธุ์ของพรรณไม้ท้องถิ่น
แสงสว่างบริเวณพื้นป่าสูง นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณ จากป่าดิบแล้งมาก เช่น พญารากด�า ข่อยหนาม กะหนาย
ที่มีการรบกวน เหยียบย�่าจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ มะเฟืองช้าง มะป่วน กระบก และนวลเสี้ยน เป็นต้น ส่วน
สอดคล้องกับรายงานของ Anusontpornperm et al. พันธุ์ไม้จากป่าผสมผลัดใบที่เข้ามาตั้งตัวและอยู่ร่วมกัน
(2012) ที่พบว่าดินในพื้นที่ป่าดิบแล้งที่ผ่านการรบกวน กับพันธุ์ไม้จากป่าดิบแล้งได้ดี เช่น แคหัวหมู โมกมัน
มีความหนาแน่นรวมของดินสูงโดยเพิ่มขึ้นจากดินชั้นบน และติ้วเกลี้ยง เป็นต้น ปัจจัยแวดล้อม (เปอร์เซ็นต์การ
ลงสู่ดินชั้นล่าง (Tangsinmankong, 2004) ท�าให้การ ปกคลุมของเรือนยอด ความชื้นดิน และความหนาแน่น
งอกและตั้งตัวของกล้าไม้หลายชนิดเกิดได้ไม่ดีนัก เมื่อ ของดิน) เป็นปัจจัยก�าหนดหลักในการปรากฏของไม้ใหญ่
เปรียบเทียบกับการตั้งตัวบริเวณที่ดินร่วนซุย (Marod, (Pearson correlation (species - environment), r =
1995) พรรณไม้ที่สามารถตั้งตัวในปัจจัยแวดล้อม 0.97) และพบหมู่ไม้ที่สามารถขึ้นได้ทั่วไปตามช่วงการ
เช่นนี้ได้จึงต้องเป็นกลุ่มพืชที่ปรับตัวอยู่ได้ในสภาพ ลดหลั่นของปัจจัยแวดล้อมทั้ง 3 ปัจจัย บริเวณแนว
ที่มีความแห้งแล้ง (drought) เช่น กลุ่มของพรรณไม้ ขอบป่า เช่น กะหนายล�าป้าง พญารากด�า มะเฟืองช้าง
ผลัดใบ (Marod et al., 1999, 2002 and 2003) กลุ่มหมู่ไม้ นวลเสี้ยน ส�าเภา มะป่วน มะไฟ มะห้า คอแลน กัดลิ้น
ที่ 3 ถือได้ว่าเป็นกลุ่มพรรณไม้ท้องถิ่นที่มีความเหมาะสม แคหัวหมู โมกมัน ติ้วเกลี้ยง และกระบก เป็นต้น
ส�าหรับฟื้นฟูป่าเนื่องจากสามารถปรากฏได้ทั่วไปใน ดังนั้น การฟื้นฟูป่าด้วยการปลูกพืชท้องถิ่น
พื้นที่เพราะมีช่วงความทนทนทางนิเวศวิทยา (amplitude จึงควรเริ่มฟื้นฟูจากพื้นที่แนวรอยต่อป่าธรรมชาติที่
of tolerance) ค่อนข้างสูง สามารถตั้งตัวได้ดีในสภาพ หลงเหลืออยู่ และควรปลูกพืชที่มีช่วงความทนทานทาง
ปัจัยแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากจึงพบมาก ด้านนิเวศวิทยากว้าง โดยเฉพาะสามารถตั้งตัวได้ดีในพื้นที่
บริเวณแนวขอบป่าธรรมชาติถึงแนวขอบป่าตอนกลาง แสงสว่างค่อนข้างมาก และความชื้นในดินต�่า พรรณไม้ที่
เช่น กะหนาย ล�าป้าง พญารากด�า มะเฟืองช้าง นวลเสี้ยน มีความเหมาะสมส�าหรับการน�าไปใช้ในการฟื้นฟูสภาพ
ส�าเภา มะป่วน มะไฟ มะห้า คอแลน กัดลิ้น แคหัวหมู ป่าดิบดิบแล้งเสื่อมโทรม จึงควรใช้กลุ่มพรรณไม้ที่สามารถ
โมกมัน ติ้วเกลี้ยง และกระบก เป็นต้น กระจายได้ทั่วไปตามการลดหลั่นของปัจจัยแวดล้อม
ดังนั้น การเริ่มการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมหากยังคง ค�ำนิยม
มีพื้นที่ป่าธรรมชาติหลงเหลืออยู่ควรเริ่มฟื้นฟูจากแนว
ขอบป่าธรรมชาติก็จะช่วยร่นระยะเวลาการฟื้นตัวกลับ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของศูนย์ศึกษาธรรมชาติ
ของสภาพป่าดั้งเดิมได้เร็วขึ้น (Marod et al., 2014) การ และท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัด
ด�าเนินการควรมีการป้องกันการรบกวนจากมนุษย์และไฟป่า สระบุรี ทุกท่าน ที่ให้การช่วยเหลือและอ�านวยความ
ในช่วงระยะแรก เพื่อให้พันธุ์ไม้เหล่านี้สามารถตั้งตัวได้ สะดวกในการเก็บข้อมูลวิจัยครั้งนี้
แล้วจึงปล่อยให้มีการสืบต่อพันธุ์ตามธรรมชาติต่อไป
REFERENCES
สรุป
Anusontpornperm, S., W. Sonkanha, S. Thanachit,
โครงสร้างและองค์ประกอบพรรณพืช บริเวณ I. Kheoruenromne and T. Artchawakom.
พื้นที่ป่าสักฟื้นฟูอายุประมาณ 35 ปี มีแนวทางการทดแทน 2012. Soil Characteristics under
กลับคืนสู่สภาพป่าดั้งเดิมได้ดี พบชนิดพรรณไม้จ�านวน Various Types of Forest in Sakaerat