Page 69 -
P. 69

โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์




                                           วารสารวนศาสตร 31 (3) : 65-74 (2556)                      67
                                                           ์


                  ให้นักท่องเที่ยวได้รับความพึงพอใจ  ประสบการณ์  score  equation)  เพื่อจ�าแนกพื้นที่กางเต็นท์ว่าอยู่ในช่วง

                  ท่องเที่ยวที่มีคุณค่า    อีกทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ให้  ชั้นโอกาสแบบใด (ดรรชนี และคณะ, 2547) แล้วจึง
                  นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพื้นที่ตรงตามความชอบ  น�าค่าคะแนนที่ได้จากการค�านวณในพื้นที่กางเต็นท์
                  และประสบการณ์ที่พึงปรารถนา  โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไข  แต่ละแห่งมาจัดเข้าตามช่วงชั้น  (1.00 - 1.75  คะแนน
                  ของสภาพพื้นที่และหลักการจัดการอุทยานแห่งชาติ  จัดอยู่ในพื้นที่กางเต็นท์ธรรมชาติที่มีการพัฒนามาก
                                                               1.76 - 2.50  คะแนน  จัดอยู่ในพื้นที่กางเต็นท์ธรรมชาติ
                            อุปกรณ์และวิธีการ                  พัฒนาบ้าง 2.51 - 3.25 คะแนน จัดอยู่ในพื้นที่กางเต็นท์


                  ศึกษาปัจจัยและเกณฑ์ในการก�าหนดช่วงชั้น       กึ่งสันโดษ  และ  3.26 - 4.00  คะแนน  จัดอยู่ในพื้นที่
                  โอกาสด้านนันทนาการส�าหรับพื้นที่กางเต็นท์    กางเต็นท์แบบสันโดษ)
                  ในอุทยานแห่งชาติ                                    5. ปรับปรุงปัจจัยและเกณฑ์ให้เหมาะสม

                         1.  รวบรวมข้อมูลทุติยภูมิต่างๆ  ที่เกี่ยวข้อง    แล้วน�าไปประเมินในพื้นที่การศึกษาวิจัย
                  เช่น ข้อมูลทางวิชาการ ผังปัจจุบันแสดงพื้นที่กางเต็นท์    ประเมินช่วงชั้นโอกาสด้านนันทนาการ  (ROS)
                         2.  ร่างปัจจัยและเกณฑ์ในการก�าหนดช่วงชั้น
                  โอกาสด้านนันทนาการส�าหรับพื้นที่กางเต็นท์ในอุทยาน  ส�าหรับพื้นที่กางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติแก่ง
                  แห่งชาติ  โดยแบ่งออกเป็น  4  ช่วงชั้น  คือ  พื้นที่กาง  กระจาน
                  เต็นท์ธรรมชาติที่พัฒนามาก  พื้นที่กางเต็นท์ธรรมชาติ  1.  ประเมิน  ROS  ด้านกายภาพและด้านการ
                  ที่พัฒนาบ้าง พื้นที่กางเต็นท์กึ่งสันโดษ พื้นที่กางเต็นท์  จัดการ  โดยผู้วิจัยท�าการส�ารวจในพื้นที่ศึกษาคือ  พื้นที่
                  แบบสันโดษ  และจ�าแนกปัจจัยการประเมินเป็น  3  ด้าน    กางเต็นท์บริเวณที่ท�าการอุทยานแห่งชาติ พื้นที่กางเต็นท์

                  คือ  ด้านกายภาพ  ด้านการจัดการและด้านสังคม   บริเวณบ้านกร่าง  และพื้นที่กางเต็นท์บริเวณพะเนินทุ่ง
                         3.  ก�าหนดค่าถ่วงน�้าหนัก (weighted score:  W)    ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
                  และเกณฑ์เพื่อให้คะแนน  (rated  score:  R)  ในแต่ละ       ผู้วิจัย น�าแบบส�ารวจไปประเมินปัจจัยทาง
                  ปัจจัยชี้วัด  และน�าร่างปัจจัยและเกณฑ์ในการก�าหนด  กายภาพและการจัดการตามปัจจัยและเกณฑ์ที่ได้
                  ช่วงชั้นโอกาสด้านนันทนาการส�าหรับพื้นที่กางเต็นท์  ก�าหนดขึ้นในข้อ  1.  ในพื้นที่กางเต็นท์ทั้ง  3  แห่ง
                  ในอุทยานแห่งชาติ  ให้ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ทรงคุณวุฒิให้  จากนั้นจึงค�านวณค่า  ROS  โดยใช้สมการถ่วงน�้าหนัก
                  ข้อเสนอแนะ  โดยใช้วิธีเลือกผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ทรงคุณวุฒิ  และน�าไปเปรียบเทียบกับค่าคะแนนที่ได้จัดกลุ่มช่วงชั้น
                  โดยใช้วิธีการสุ่มแบบเรียกชื่อ  (snowball  sampling)    ทั้ง  4  ช่วงชั้น  ในข้อ  4
                         4. ปรับร่างปัจจัยและเกณฑ์ในการก�าหนด         2.  ประเมิน  ROS  ด้านสังคม  โดยประเมิน
                  ช่วงชั้นโอกาสด้านนันทนาการส�าหรับพื้นที่กางเต็นท์  จากประสบการณ์นักท่องเที่ยว
                  ในอุทยานแห่งชาติ  ตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ/       2.1  ก�าหนดกลุ่มประชากร  (population)
                  ผู้ทรงคุณวุฒิ และปรึกษาประธานกรรมการและกรรมการ  ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวไทยอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป ที่มา
                  ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ พร้อมให้ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ทรงคุณวุฒิ  ประกอบกิจกรรมกางเต็นท์พักแรม ช่วงเดือนธันวาคม

                  เสนอชื่อพื้นที่กางเต็นท์ที่มีประสบการณ์นันทนาการ  พ.ศ.  2554  และมกราคม  พ.ศ.  2555
                  แตกต่างกันอย่างน้อย    4    แห่ง    เพื่อนักวิจัยได้น�า       2.2  ก�าหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง  (sample
                  เครื่องมือไปทดสอบในพื้นที่กางเต็นท์ดังกล่าว  เพื่อ  size)  โดยใช้สูตรของทาโร่  ยามาเน  (Yamane,  1973)
                  ปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น  โดยผู้วิจัยเป็น  ที่ค่าความคลาดเคลื่อน  0.05  ได้จ�านวนตัวอย่าง  390
                  ผู้ส�ารวจและประเมิน  ใช้สมการถ่วงน�้าหนัก  (weighted    ตัวอย่าง  เก็บข้อมูลแต่ละพื้นที่ตามสัดส่วนที่เหมาะสม
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74