Page 73 -
P. 73
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วารสารวนศาสตร 31 (3) : 65-74 (2556) 71
์
ทั้ง 3 แห่ง พบว่า มีค่าเฉลี่ยของประสบการณ์ที่นัก ที่นักท่องเที่ยวคาดหวังที่จะได้รับจากการประกอบ
ท่องเที่ยวคาดหวังที่จะได้รับ เท่ากับ 3.11 3.12 และ กิจกรรมกางเต็นท์พักแรมเฉลี่ยเท่ากับ 3.12 และ
3.12 ตามล�าดับ ซึ่งสะท้อนประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยว ประสบการณ์นันทนาการที่นักท่องเที่ยวได้รับจริงจาก
คาดหวังจะได้รับจากการกางเต็นท์พักแรมในพื้นที่ การประกอบกิจกรรมกางเต็นท์พักแรมเฉลี่ยเท่ากับ
กางเต็นท์กึ่งสันโดษ และค่าเฉลี่ยของประสบการณ์ที่ 3.03 สรุปได้ว่า ประสบการณ์นันทนาการที่นักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวได้รับจริง เท่ากับ 3.08 3.06 และ 3.03 คาดหวังและที่ได้รับจริงจากการประกอบกิจกรรม
ตามล�าดับ ซึ่งสะท้อนประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวได้ กางเต็นท์มีความแตกต่างกัน แม้จะจัดอยู่ในช่วงชั้นแบบ
รับจริงจากการกางเต็นท์พักแรมในพื้นที่กางเต็นท์กึ่ง พื้นที่กางเต้นท์กึ่งสันโดษเดียวกัน
สันโดษ เมื่อน�าผลจากการจ�าแนกช่วงชั้นโอกาส
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่านัก ด้านนันทนาการที่ใช้ปัจจัยด้านกายภาพ การจัดการ
ท่องเที่ยวที่มาประกอบกิจกรรมกางเต็นท์พักแรมใน และด้านสังคม มาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อหาช่วงชั้นโอกาส
พื้นที่กางเต็นท์ทั้ง 3 แห่งนั้น ก่อนที่จะได้ประกอบ ด้านนันทนาการที่เหมาะสมกับพื้นที่กางเต็นท์ใน
กิจกรรมกางเต็นท์พักแรมนักท่องเที่ยวได้คาดหวังที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สรุปได้ว่า พื้นที่กางเต็นท์
จะได้รับประสบการณ์ การได้ใกล้ชิดกับความเป็น ทั้ง 3 แห่ง เหมาะสมกับช่วงชั้นแบบพื้นที่กางเต็นท์
ธรรมชาติ ความเงียบสงบ สันโดษ ได้พึ่งพาตนเอง กึ่งสันโดษ
ในระดับที่มาก ต้องการความเป็นอิสระจากการควบคุม ตอนที่ 4 ความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการ
ของเจ้าหน้าที่ แต่ขณะเดียวกันยังต้องการความรู้สึก พื้นที่กางเต็นท์
สะดวกในการเข้าถึง และความสะดวกสบายโดยรวม ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับ
ในพื้นที่ พร้อมทั้งต้องการพบปะนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น การจัดการด้านกายภาพ ด้านการพัฒนาสิ่งอ�านวยความ
ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับ สะดวก และการจัดการนักท่องเที่ยว เห็นว่ามีความ
จากการกางเต็นท์ในพื้นที่กางเต็นท์กึ่งสันโดษ และ เหมาะสมปานกลาง แต่มีบางปัจจัยที่ต้องปรับปรุง คือ
เมื่อได้มาประกอบกิจกรรมกางเต็นท์พักแรมในพื้นที่ การเพิ่มร่มเงา ต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ การควบคุมความ
จริงแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้รับประสบการณ์ตามที่ได้ แออัดของปริมาณนักท่องเที่ยว
คาดหวังไว้
ผลการทดสอบความแตกต่างของ แนวทางการจัดการพื้นที่กางเต็นท์ตามช่วงชั้น
ประสบการณ์นันทนาการที่คาดหวังและที่ได้รับจริง โอกาสด้านนันทนาการ
โดยใช้สถิติ t-test ซึ่งก�าหนดระดับนัยส�าคัญทางสถิติที่ จากการจ�าแนก ROS ของพื้นที่กางเต็นท์ทั้ง
0.05 พบว่า มีเพียงบริเวณพื้นที่กางเต็นท์พะเนินทุ่ง 3 แห่ง ประกอบกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจาก
ที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (t = 2.542, นักท่องเที่ยว นักวิจัยได้สรุปเป็นแนวทางการจัดการ
p-value = 0.012) โดยประสบการณ์นันทนาการ พื้นที่กางเต็นท์ (Table 1)