Page 75 -
P. 75
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วารสารวนศาสตร 31 (3) : 65-74 (2556) 73
์
สรุป ในพื้นที่ การควบคุมความแออัดของปริมาณนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวคาดหวังและ
ปัจจัยและเกณฑ์ในการก�าหนดช่วงชั้นโอกาสด้าน ได้รับจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ประสบการณ์
นันทนาการส�าหรับพื้นที่กางเต็นท์ในอุทยานแห่ง ในการกางเต็นท์ในพื้นที่กึ่งสันโดษ ต้องการได้ใกล้ชิด
ชาติ กับธรรมชาติ ความเงียบสงบ สันโดษ ได้พึ่งพาตนเอง
ประกอบไปด้วย 3 ด้าน คือ ด้านกายภาพ ในระดับที่มาก ต้องการความเป็นอิสระจากการควบคุม
ด้านการจัดการ และด้านสังคม โดยปัจจัยด้านกายภาพ ของเจ้าหน้าที่ แต่ขณะเดียวกันยังต้องการความสะดวก
นับเป็นปัจจัยที่มีความส�าคัญในการจ�าแนกช่วงชั้น ในการเข้าถึง และสภาพโดยรวมในพื้นที่ พร้อมทั้ง
โอกาสด้านนันทนาการ ต้องการพบปะนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นด้วยเช่นกัน และ
จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบความแตกต่างของ
การประเมินช่วงชั้นโอกาสด้านนันทนาการ ประสบการณ์นันทนาการที่คาดหวังและที่ได้รับจริง
ส�าหรับพื้นที่กางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติแก่ง มีเพียงบริเวณพื้นที่กางเต็นท์พะเนินทุ่ง ซึ่งพบว่า มีความ
กระจาน แตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (t = 2.542, p-value =
จากปัจจัยด้านกายภาพและการจัดการ พบว่า 0.012) ประสบการณ์นันทนาการที่นักท่องเที่ยวคาดหวัง
พื้นที่กางเต็นท์บริเวณที่ท�าการอุทยานแห่งชาติ จัดอยู่ใน และที่ได้รับจริงจากการประกอบกิจกรรมกางเต็นท์มี
ช่วงชั้นพื้นที่กางเต็นท์ธรรมชาติที่พัฒนามาก บ้านกร่าง ความแตกต่างกันแม้จะจัดอยู่ในช่วงชั้นพื้นที่กางเต้นท์
จัดอยู่ในช่วงชั้นพื้นที่กางเต็นท์ธรรมชาติที่พัฒนาบ้าง กึ่งสันโดษเดียวกัน จึงควรมีการพัฒนาสิ่งอ�านวยความ
และพะเนินทุ่ง จัดอยู่ในช่วงชั้นพื้นที่กางเต็นท์กึ่งสันโดษ สะดวกและการจัดการที่เข้มข้นต่างกันตามความเหมาะสม
แต่จากปัจจัยด้านสังคม พบว่า พื้นที่กางเต็นท์ทั้ง 3 แห่ง ของสภาพกายภาพและการจัดการของพื้นที่ต่อไป
จัดอยู่ในประเภทพื้นที่กางเต็นท์กึ่งสันโดษ จากผลการศึกษามีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1) ในการ
น�าผลการจ�าแนก ROS ไปใช้ประโยชน์ ควรพิจารณา
ลักษณะของนักท่องเที่ยวและความคิดเห็น ทั้งปัจจัยด้านกายภาพ การจัดการและด้านสังคม และ
เกี่ยวกับการจัดการพื้นที่กางเต็นท์ น�าผลการวิเคราะห์มาจัดท�าข้อเสนอแนะแนวทางใน
พื้นที่กางเต็นท์ ทั้ง 3 แห่ง โดยส่วนใหญ่แล้ว การจัดการพื้นที่กางเต็นท์ 2) จากผลการศึกษา ท�าให้
มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน อาจมีบางปัจจัยที่แตกต่างกัน ทราบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในปัจจุบันแม้คาดหวัง
แต่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ที่จะได้รับประสบการณ์การกางเต็นท์ในพื้นที่กึ่งสันโดษ
จะเป็นวัยท�างาน อายุเฉลี่ย 33 ปี มาแบบกลุ่มเพื่อน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการได้รับความสะดวกใน
หรือครอบครัว/ญาติ กลุ่มละประมาณ 1 - 5 คน นิยม หลายๆ ด้าน ดังนั้น การพัฒนาสิ่งอ�านวยความสะดวก
มาท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ วัตถุประสงค์หลัก และสิ่งก่อสร้างจะต้องออกแบบให้มีขนาดเล็กและใช้
คือมากางเต็นท์ ประมาณ 1 - 2 คืน เพื่อพักผ่อน/ชม วัสดุที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม
ธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่ต้องการความสะดวกสบาย ท้องถิ่น ตลอดจนวัสดุที่ใช้เหมาะกับสภาพภูมิประเทศ
และมักประกอบอาหารรับประทานเอง ความคิดเห็น และช่วงฤดูกาล เพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปอยู่
ของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการจัดการด้านกายภาพ ในอุทยานแห่งชาติส่งผลกระทบต่อสภาพธรรมชาติ
ด้านการพัฒนาสิ่งอ�านวยความสะดวก และการจัดการ ทั้งด้านกายภาพและความรู้สึกของนักท่องเที่ยว โดย
นักท่องเที่ยว เห็นว่ามีความเหมาะสมปานกลาง แต่มี ต้องวิเคราะห์ผู้ใช้ประโยชน์และศักยภาพของพื้นที่
บางปัจจัยที่ต้องปรับปรุง คือ การเพิ่มร่มเงาต้นไม้ใหญ่ กางเต็นท์ร่วมกัน 3) ควรให้ความส�าคัญกับความคิดเห็น