Page 57 -
P. 57
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ปีที่ 41 ฉบับที่ 2 51
ก/ป72518/9) ดังนั้น “ถังแดง” จึงได้ถูกใช้เรียกเหตุการณ์การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้วย
การเผาลงถังน้ำมันที่เกิดขึ้นในพัทลุงช่วง พ.ศ. 2514-2516 ตั้งแต่นั้นมา
ครั้นเมื่อเหตุการณ์ความไม่สงบเนื่องจากภัยคอมมิวนิสต์ยุติลง ได้มีงานศึกษาเกี่ยวกับกรณีถัง
แดงและสรุปเกี่ยวกับความหมายของคำว่า “ถังแดง” ใหม่ จากมุมมองชาวบ้านในพัทลุงที่ผ่านเหตุการณ์
นั้น ถังแดงไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2514-2516 ตามที่มีการกล่าวถึงใน
หนังสือพิมพ์และกลุ่มนักศึกษาใน พ.ศ. 2518 เท่านั้น คำว่า “ถังแดง” ยังมีขอบเขตที่กว้างขวาง
ครอบคลุมถึงกระบวนการที่รัฐใช้วิธีการต่างๆ ในการยับยั้งการต่อต้านการต่อสู้ของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้าน
จำนวนมากเสียชีวิตลงโดยมิได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม (สมยศ เพชราและคณะ, 2549, 115)
รวมถึงกรณีอื่นๆ ตั้งแต่การยิงทิ้ง การถีบลงจากที่สูง รวมทั้งการจับกุมและการทรมานผู้ต้องหาด้วย
(เพิ่งอ้าง, 114-115) คำว่า “ถังแดง” ในบทความนี้จะใช้อธิบายความหมายอย่างกว้างนี้
กรณีถังแดงที่เกิดขึ้นในจังหวัดพัทลุงภายใต้บริบทสงครามเย็นเนื่องจากประเทศไทยสนับสนุน
สหรัฐอเมริกาในการต่อต้านคอมมิวนิสต์มาตลอดช่วงสงครามเย็นตั้งแต่การเข้าร่วมสงครามเกาหลี
ระหว่าง พ.ศ. 2493 - 2496 จนถึงสงครามเวียดนามซึ่งรัฐบาลไทยอนุญาตให้สหรัฐอเมริกาใช้ฐานทัพใน
ประเทศทำสงครามในเวียดนามตั้งแต่ พ.ศ. 2507 ส่งผลให้ประเทศจีนและเวียดนามเหนือไม่พอใจและ
ทำการสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ไทยเพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลไทย (เดวิด เค วัยอาจ, 2556: 398)
โดยประเทศจีนและเวียดนามให้การสนับสนุนทั้งอาวุธและการฝึกแก่พรรคคอมมิวนิสต์ไทย (เพื่ออ้าง:
401) และตั้งแต่ พ.ศ. 2507 ช่องว่างระหว่างความเป็นอยู่ระหว่างเมืองกับชนบททำให้พรรคคอมมิวนิสต์
สามารถเข้าแทรกซึมและปฏิบัติการด้วยอาวุธในพื้นที่ชนบทในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ
ภาคใต้ตอนล่างได้ (เพิ่งอ้าง: 400-401) ต่อมาจังหวัดพัทลุงจึงเป็น 1 ใน 16 จังหวัดที่มีพรรคคอมมิวนิสต์
เข้ามาปฏิบัติการมากที่สุดของประเทศ (พลเอกสายหยุด เกิดผล: 2537, 8) ส่งผลให้รัฐบาลส่งทหารเข้ามา
เพื่อช่วยปราบปรามกลุ่มคอมมิวนิสต์และพยายามจัดการกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
เพราะฝ่ายทหารเห็นว่าคอมมิวนิสต์เป็นศัตรูที่ต้องปราบให้หมดสิ้นไปผ่านการปลูกฝังความคิดจากรัฐบาล
ที่มีต่อคอมมิวนิสต์ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและภัยร้ายของชาติ (สมยศ เพชรา และคณะ, อ้างแล้ว:124 - 126)
การปราบปรามด้วยการสังหารผู้ต้องสงสัยทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพรรค
คอมมิวนิสต์ได้พยายามวางตัวเป็นมิตรกับชาวบ้านในเขตปฏิบัติการ ทำให้การโฆษณาชวนเชื่อของรัฐที่
กล่าวถึงคอมมิวนิสต์ว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อชาวบ้านเริ่มไม่ได้รับความเชื่อถือ ใน พ.ศ. 2513 รัฐบาลจึง
ประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและเจ้าหน้าที่รัฐได้เพิ่มความรุนแรงในการปราบปรามตาม
แนวเทือกเขาบรรทัดในจังหวัดพัทลุงซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ถังแดงในที่สุด งานวิจัยเกี่ยวกับกรณีถังแดง
(เพิ่งอ้าง: 126-129) ได้มีการศึกษาพบว่ามีการปราบปรามอย่างรุนแรงโดยการใส่ร้ายป้ายสีและเหวี่ยงแห
ทำให้มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเสียชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง พ.ศ. 2514-2516 ชาวบ้านจึงหวาดกลัวเจ้าหน้าที่
ของรัฐและร่วมมือกับคอมมิวนิสต์มากขึ้น ฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีนโยบายผูกมิตรกับชาวบ้านจึง
สามารถเข้าถึงชาวบ้านได้ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้สูญเสียการสนับสนุนจากชาวบ้านในท้องถิ่น ดังนั้นวิธีการ
ปราบปรามนี้จึงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาคอมมิวนิสต์แต่กลับทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ในพัทลุงเข้มแข็งมากขึ้น