Page 10 -
P. 10

โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


           4     วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์



           หรือสร้างเครือข่ายสมาชิก  รวมทั้งมีกลไกในการบริหารจัดการสมาชิกและรวบรวมข้อมูลของภาคธุรกิจได้
           อย่างเป็นระบบ
                    งานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ศึกษากลุ่มผลประโยชน์ในสังคมไทยและชี้ให้เห็นถึงความเติบโตของ
           องค์กรนอกภาครัฐในความหมายของ Riggs มากยิ่งขึ้นก็คือ งานของอเนก เหล่าธรรมทัศน์ (2538) ซึ่ง
           ให้ภาพความเติบโตขององค์กรธุรกิจในช่วงราวทศวรรษ  2520  นอกจากนี้ก็จะพบว่า  การศึกษากลุ่มพลัง

           ทางสังคมการเมืองได้ขยายตัวมาก  โดยเฉพาะการทำวิทยานิพนธ์และภาคนิพนธ์หรือสารนิพนธ์ของนิสิต
           นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์  ซึ่งมักจะหยิบเอากลุ่มผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาศึกษาเพื่อวิเคราะห์
           ประเด็นพัฒนาการ  การก่อเกิด  การดำรงอยู่  การสร้างอิทธิพล  และผลสำเร็จในการเคลื่อนไหวผลักดัน

           ซึ่งผู้เขียนจะพิจารณาให้เห็นข้อจำกัดบางประการในส่วนท้ายของบทความ

           2.ประเด็นถกเถียงบางประการเกี่ยวกับกรอบการวิเคราะห์แบบกลุ่มผลประโยชน์
                    ในส่วนนี้  ผู้เขียนต้องการหยิบบางประเด็นเกี่ยวกับกรอบการศึกษากลุ่มผลประโยชน์ในแง่
           เครื่องมือและประเด็นศึกษาวิจัย ซึ่งคงเป็นเพียงข้อสังเกตบางประการที่เห็นว่าสำคัญเท่านั้น เป็นการหยิบ

           ขึ้นมาพิจารณาเพื่อที่จะได้มีผู้ที่สนใจลองนำไปทำงานที่ลึกซึ้งต่อไป
                    2.1 ประเด็นถกเถียงเรื่องบทบาทหน้าที่ของกลุ่มผลประโยชน์
                    ตำราทฤษฎีกลุ่มผลประโยชน์หรือกลุ่มผลักดันในวงวิชาการสังคมไทยก็มักจะกล่าวถีงหน้าที่

           ของกลุ่มเอาไว้ ซึ่งอาจจะจัดหมวดหมู่หน้าที่และบทบาทออกเป็นด้านต่างๆ ดังนี้
                    1.หน้าที่ในด้านความเป็นตัวแทน  (representation)  กล่าวคือ  การสร้างพื้นที่การมีส่วนร่วม
           ทางการเมืองและเชื่อมต่อระหว่างประชาชนกับระบบการเมือง  เนื่องจากการเลือกตั้งมักจะมีวาระนานๆ
           ครั้ง  ทำให้การต่อรองหรือการผลักดันผลประโยชน์ของผู้คนในสังคมผ่านระบบการเลือกผู้แทนหรือ
           ตัวแทนจึงมีความจำกัด  มนตรี  เจนวิทย์การ  (2528)  กล่าวถึงหน้าที่ของกลุ่มผลประโยชน์ในระบบ

           การเมืองในแง่นี้เอาไว้ว่า  กลุ่มผลประโยชน์ทำหน้าที่ในการสร้างสมดุลในการเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ  ใน
           สังคมการเมือง ทำให้การตัดสินใจการเมืองมีฐานอยู่บนการพิจารณาผลประโยชน์ ความต้องการของผู้คน
           และทำหน้าที่เป็นกลไกที่ช่วยให้ประชาชนสามารถแสดงออกซึ่งผลประโยชน์และความต้องการของกลุ่ม

           ตน ทำให้ผลประโยชน์ของทุกฝ่ายได้รับการพิจารณา เกิดการต่อรองเจรจา
                    2.หน้าที่ด้านการขยายช่องทางมีส่วนร่วมทางการเมือง  (political  participation  channel)
           ในสภาวะการเมืองปัจจุบันผู้คนในสังคมเข้าไปสังกัดกลุ่มทางสังคมการเมืองจำนวนมากยิ่งขึ้น  นักทฤษฎี
           กลุ่มผลประโยชน์มองเห็นถึงปรากฏการณ์ความขัดแย้งใหม่ๆ  เช่น  ปัญหาสิ่งแวดล้อม  การทำแท้ง
           อัตลักษณ์ของผู้คน ฯลฯ ซึ่งการเมืองเช่นนี้ผู้คนไม่ได้อาศัยช่องทางการเมืองในระบบปกติ เช่น ลง

           คะแนนเลือกตั้ง การอาศัยกลไกพรรคการเมือง ฯลฯ แต่อาศัยการระดมผู้คนผ่านการรณรงค์เพื่อแสวงหา
           การสนับสนุนจากสาธารณชนผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การร่วมลงชื่อ การเดินขบวน หรือรูปแบบอื่นๆ
                    3.หน้าที่ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้  (education)  กลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มผลักดันช่วย

           ทำให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้และเข้ามาร่วมถกเถียงประเด็นสาธารณะที่สำคัญๆ  ช่วยทำหน้าที่ในการให้
           ข้อมูลข่าวสารทางการเมืองและสร้างจิตสำนึกทางการเมืองให้แก่ผู้คนในสังคม
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15