Page 69 -
P. 69
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
58
ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการศึกษาสภาพสังคมพืชในพื้นที่ป่าธรรมชาติบริเวณศูนย์วิจัยป่าชายเลน ที่ส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลน
เพื่อสามารถเปรียบเทียบการใช้พื้นที่อาศัยที่แตกต่างกันกับบริเวณอื่นต่อไป นอกจากนี้ขนาดพื้นที่ของชุมชน ขนาด
พื้นที่ของพื้นที่ธรรมชาติ ทิศทางลม การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอาจมีผลต่อการเลือกใช้พื้นที่อาศัยของนกแอ่นกินรัง
ซึ่งควรมีการศึกษาต่อไป
2. ควรมีการศึกษาการเคลื่อนที่ของนกแอ่นกินรังด้วยการติดสัญญาณวิทยุ เพื่อให้ได้ข้อมูลด้านต่างๆ ต่อไป
3. ควรมีการศึกษาการใช้พื้นที่อาศัยของนกแอ่นกินรังด้วยการเฝ้าสังเกตในบริเวณพื้นที่อื่น เช่น สวนผลไม้
พื้นที่เกษตรกรรม บริเวณชุมชนที่แตกต่างกันออกไปจากพื้นที่ศึกษา เพื่อเปรียบเทียบการใช้พื้นที่ นอกเหนือจากป่า
ชายเลน พร้อมกับการศึกษาสภาพ องค์ประกอบ โครงสร้างของพันธุ์ไม้ในพื้นที่ด้วย
4. ควรมีการศึกษาความมากน้อยของแมลงชนิดต่างๆที่เป็นอาหารนกแอ่นกินรังในถิ่นอาศัยที่แตกต่างกันทั้งใน
บริเวณชุมชน ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ ความผันแปรของชนิดและจ านวนแมลงที่เป็นอาหารในรอบปี
5. การศึกษานี้ได้ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมของนกในถิ่นอาศัยที่ต่างกัน 2 ประเภท และระดับความสูง ทั้ง
ในช่วงเวลาต่างๆ และแต่ละเดือนแต่ยังขาดการศึกษาพฤติกรรมของนกเปรียบเทียบระหว่างฤดูผสมพันธุ์และนอกฤดู
ผสมพันธุ์ จึงควรมีการศึกษาต่อไป
6. ผลการศึกษาพบว่านกแอ่นกินรังใช้พื้นที่บริเวณพื้นที่ชุมชน นกใช้ระดับความสูงประมาณ 20–30 เมตร ใน
การท ากิจกรรมเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นควรงดกิจกรรมของมนุษย์ที่อาจมีผลต่อการหากินของนกแอ่นกินรัง ในช่วงความสูง
ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย เช่นการก่อสร้างสิ่งกีดขวาง การดักจับนก หรือแม้แต่ตรวจติดตามการใช้สารเคมีที่อาจมีผล
ตกค้างในบรรยากาศในระดับความสูงที่นกแอ่นกินรังใช้ในการบินจับแมลงด้วย
7. การท ารังของนกแอ่นกินรังแม้พบว่าอยู่ในบริเวณชุมชน แต่พื้นที่ธรรมชาติ มีความจ าเป็นเช่นกัน หากมีการ
เพาะเลี้ยงนกแอ่นกินรังด้วยการสร้างอาคาร ก็ควรมีการจัดการ เก็บรักษาพื้นที่ธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับแหล่งที่สร้างรัง
วางไข่ของนกแอ่นกินรังด้วย เพื่อให้นกแอ่นกินรังมีพื้นที่ส าหรับแสดงพฤติกรรมต่างๆ ภายหลังจากการหาอาหาร เช่น
การพัก การเกี้ยวพาราสี ควบคู่กันไป เช่นเดียวกับพื้นที่สัมปทานรังนกก็ควรให้ความส าคัญกับพื้นที่ธรรมชาติรอบพื้นที่
ด้วย
REFERENCES
Altmann, J. 1973. Observational Study of Behavior: Sampling Method. University of Chicago,
Illinois, U.S.A.
Dumsrisuk, Y. 2012. Nesting behavior of spawning and rearing young of Edible nest swiftlet
(Collocalia fuciphaga (Gmelin) 1789) at Sutiwatawararam Temple, Mueang District, Samut
Sakhon Province. BS Special Problem, Department of Forest Biology, Faculty of Forestry,
Kasetsart University, Bangkok [in Thai]
Langham, N. 1980. Breeding biology of the Edible-nest Swiftlet (Aerodramus fuciphagus). Ibis 122
(4): 447–461.
Koon, L.C. & E.O. Cranbrook. 2002. Swiftlets of Borneo: Builders of Edible Nests. Natural History
Publications (Borneo), Kota Kinabalu.
Ponak, P. 2007. Some ecological aspects of Germain’s swiftlet (Collocalia germani Oustalet) in
Kho Chang National Park, Changwat Trat. MS Thesis, Kasetsart University, Bangkok [in Thai with
English Abstract].
วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย ปีที่ 24 พ.ศ. 2560 Journal of Wildlife in Thailand Vol. 24, 2017