Page 51 -
P. 51

โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
             วารสารการจัดการป่าไม้                                                                                                    ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อโครงการบริหาร...
             ปีที่ 12 ฉบับที่ 23                                                       ณรงค์  เกษสา  และคณะ
                                                        49
             < 0.001) แสดงว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกัน มีความ  ที่มีอาชีพหลักเกษตรกรรม กับประชาชนที่มีอาชีพหลัก
             คิดเห็นต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากร ในพื้นที่  รับจ้างทั่วไป (2) ประชาชนที่มีอาชีพหลักเกษตรกรรม กับ

             ศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ โดยกลุ่ม  ประชาชนที่มีอาชีพหลักอื่นๆ และ (3) ประชาชนที่
             ประชาชนที่มีอายุมาก มีความคิดเห็นที่เห็นด้วยต่อ  มีอาชีพหลักรับจ้างทั่วไป กับประชาชนที่มีอาชีพ

             โครงการฯ มากกว่ากลุ่มประชาชนที่มีอายุน้อย     หลักอื่นๆ มีความคิดเห็นต่อโครงการบริหารจัดการ
                    2.  ระดับการศึกษา ผู้ศึกษาได้แบ่งระดับ  ทรัพยากรในพื้นที่ศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญ
             การศึกษาของประชาชนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1)   ทางสถิติ

             กลุ่มประชาชนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ (2) กลุ่มประชาชนที่  4.  รายได้ของครัวเรือน ผู้ศึกษาได้แบ่งราย
             มีการศึกษาระดับประถมศึกษา – มัธยมศึกษา /ปวช. และ   ได้ของครัวเรือนของประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยใช้

             (3) กลุ่มประชาชนที่มีการศึกษาระดับอนุปริญญา/  ค่าเฉลี่ยรายได้ของครัวเรือนประชาชน (142,610.74
             ปวส. หรือสูงกว่า (Mean = 3.755, 3.885 และ 3.905   บาท) มาใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่งกลุ่ม ได้แก่ (1)
             ตามล�าดับ) พบว่า ระดับการศึกษาเป็นปัจจัยที่ไม่มีผล  กลุ่มประชาชนที่มีรายได้ของครัวเรือนน้อย (น้อยกว่า

             ต่อความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อโครงการบริหาร  142,610.74 บาท) และ (2) กลุ่มประชาชนที่มีรายได้ของ
             จัดการทรัพยากรในพื้นที่ศึกษา (F = 1.056, p-value =   ครัวเรือนมาก (มากกว่า 142,610.74 บาท) (Mean

             0.349) แสดงว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มี  = 3.843 และ 3.921 ตามล�าดับ) พบว่า รายได้ของ
             ความคิดเห็นต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่  ครัวเรือนเป็นปัจจัยที่ไม่มีผลต่อความคิดเห็นของ
             ศึกษาไม่แตกต่างกัน                            ประชาชนที่มีต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากร

                    3.  อาชีพหลัก ผู้ศึกษาได้แบ่งอาชีพหลักของ  ในพื้นที่ศึกษา (t = -1.189, p-value = 0.236) แสดงว่า
             ประชาชนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มประชาชน ที่มี  ประชาชนที่มีรายได้ของครัวเรือนต่างกัน มีความคิด

             อาชีพหลักเกษตรกรรม (2) กลุ่มประชาชนที่มีอาชีพ  เห็นต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่
             หลักรับจ้างทั่วไป และ (3) กลุ่มประชาชนที่มีอาชีพ  ศึกษาไม่แตกต่างกัน
             หลักอื่นๆ (ค้าขาย รับราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ และ   5.  ระยะเวลาการตั้งถิ่นฐาน ผู้ศึกษาได้

             ท�าธุรกิจส่วนตัว) (Mean = 4.068, 3.799 และ 3.476 ตาม  แบ่งระยะเวลาการตั้งถิ่นฐานของประชาชนออกเป็น
             ล�าดับ) พบว่า อาชีพหลักเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็น  3 กลุ่ม โดยใช้ค่าช่วงระยะเวลาการตั้งถิ่นฐาน (27

             ของประชาชนที่มีต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากร  ปี) มาใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่งกลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่ม
             ในพื้นที่ศึกษา (F = 30.811, p-value < 0.001) แสดง  ประชาชนที่มีระยะเวลาการตั้งถิ่นฐานไม่นาน (1 –
             ว่า ประชาชนที่มีอาชีพหลักต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ  27 ปี) (2) กลุ่มประชาชนที่มีระยะเวลาการตั้งถิ่นฐาน

             โครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ศึกษาแตก  ปานกลาง (28 – 54 ปี) และ (2) กลุ่มประชาชนที่มีระยะ
             ต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ โดยกลุ่มประชาชน  เวลาการตั้งถิ่นฐานนาน  (55 – 82 ปี) (Mean = 3.839,

             ที่มีอาชีพหลักเกษตรกรรมมีความคิดเห็นที่เห็นด้วยต่อ  3.815 และ 4.000 ตามล�าดับ) พบว่า ระยะเวลาการตั้ง
             โครงการฯ มากกว่ากลุ่มประชาชนที่มีอาชีพหลักกลุ่ม  ถิ่นฐานเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็นของประชาชน
             อื่นๆ ซึ่งผลการวิเคราะห์รายคู่ พบว่า (1) ประชาชน  ที่มีต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ศึกษา
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56