Page 52 -
P. 52

โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
         วารสารการจัดการป่าไม้                                                                                                    ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อโครงการบริหาร...
         ปีที่ 12 ฉบับที่ 23                                                                        ณรงค์  เกษสา  และคณะ
                                                    50
         (F = 3.172,  p-value = 0.043) แสดงว่า ประชาชนที่  พบว่า การเป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคมเป็นปัจจัยที่มีผล
         มีระยะเวลาการตั้งถิ่นฐานต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ  ต่อความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อโครงการบริหาร

         โครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ศึกษาแตก  จัดการทรัพยากรในพื้นที่ศึกษา (t = -3.986, p-value <
         ต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ โดยกลุ่มประชาชน  0.001) แสดงว่า ประชาชนที่มีการเป็นสมาชิกกลุ่มทาง

         ที่มีระยะเวลาการตั้งถิ่นฐานนาน มีความคิดเห็นที่เห็น  สังคมต่างกัน มีความคิดเห็นต่อโครงการบริหารจัดการ
         ด้วยต่อโครงการฯ มากกว่ากลุ่มประชาชนที่มีระยะ  ทรัพยากรในพื้นที่ศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญ
         เวลาการตั้งถิ่นฐานไม่นาน และปานกลาง ซึ่งผลการ  ทางสถิติ โดยกลุ่มประชาชนที่เป็นสมาชิกกลุ่มทาง

         วิเคราะห์รายคู่ พบว่า (1) ประชาชนที่มีระยะเวลาการ  สังคม มีความคิดเห็นที่เห็นด้วยต่อโครงการฯ มากกว่า
         ตั้งถิ่นฐานไม่นาน กับประชาชนที่มีระยะเวลาการตั้ง  กลุ่มประชาชนที่ไม่เป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคม

         ถิ่นฐานนาน และ (2) ประชาชนที่มีระยะเวลาการตั้ง       8.  ประสบการณ์การอนุรักษ์ทรัพยากร
         ถิ่นฐานปานกลาง กับประชาชนที่มีระยะเวลาการตั้งถิ่นฐาน  ป่าไม้ ผู้ศึกษาได้แบ่งประสบการณ์การอนุรักษ์
         นาน มีความคิดเห็นต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากร  ทรัพยากรป่าไม้ของประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1)

         ในพื้นที่ศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ  กลุ่มประชาชนที่ไม่มีประสบการณ์การอนุรักษ์ทรัพยากร
                6.  การได้รับข้อมูลข่าวสาร ผู้ศึกษาได้  ป่าไม้ และ (2) กลุ่มประชาชนที่มีประสบการณ์การ

         แบ่งการได้รับข้อมูลข่าวสารของประชาชนออก       อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้  (Mean = 3.737 และ 3.924 ตาม
         เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มประชาชนที่ไม่ได้รับข้อมูล  ล�าดับ) พบว่า ประสบการณ์การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
         ข่าวสาร และ (2) กลุ่มประชาชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสาร   เป็นปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ

         (Mean = 3.666 และ 3.955 ตามล�าดับ) พบว่า การได้  โครงการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ศึกษา (t
         รับข้อมูลข่าวสารเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็นของ  = -2.753, p-value = 0.006) แสดงว่า ประชาชนที่มี

         ประชาชนที่มีต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากร    ประสบการณ์การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ต่างกัน มี
         ในพื้นที่ศึกษา (t = -4.358, p-value < 0.001) แสดง  ความคิดเห็นต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากรใน
         ว่า ประชาชนที่มีการได้รับข้อมูลข่าวสารต่างกัน มี  พื้นที่ศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ โดย

         ความคิดเห็นต่อโครงการบริหารจัดการทรัพยากรใน   กลุ่มประชาชนที่มีประสบการณ์การอนุรักษ์ทรัพยากร
         พื้นที่ศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ โดย  ป่าไม้ มีความคิดเห็นที่เห็นด้วยต่อโครงการฯ มากกว่ากลุ่ม

         กลุ่มประชาชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสาร มีความคิดเห็น  ประชาชนที่ไม่มีประสบการณ์การอนุรักษ์ทรัพยากร
         ที่เห็นด้วยต่อโครงการฯ มากกว่ากลุ่มประชาชนที่  ป่าไม้
         ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร                               9.  ความรู้เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ผู้ศึกษา

                7.  การเป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคม ผู้ศึกษาได้  ได้แบ่งความรู้เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนของประชาชน
         แบ่งการเป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคมของประชาชนออก   ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มประชาชนที่มีความรู้เกี่ยว

         เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มประชาชนที่ไม่เป็นสมาชิก  กับภาวะโลกร้อนน้อย - ปานกลาง (2 – 6 คะแนน) และ
         กลุ่มทางสังคม และ (2) กลุ่มประชาชนที่เป็นสมาชิก  (2) กลุ่มประชาชนที่มีความรู้เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน
         กลุ่มทางสังคม (Mean = 3.676 และ 3.945 ตามล�าดับ)   มาก (7 – 10 คะแนน) (Mean = 3.883 และ 3.863 ตาม
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57