Page 6 -
P. 6
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บทที่ 1
บทนํา
1.1 ที่มาและความสําคัญ
แมวาบทบาทของภาคการเกษตรในเชิงมูลคาทางเศรษฐกิจจะลดลงแตภาคเกษตรยังคงเปนแหลง
รองรับแรงงานจํานวนมาก เฉพาะครัวเรือนเกษตรเองก็มีมากถึง 4 ลานครัวเรือน อยางไรก็ตาม เกษตรกร
จํานวนไมนอยตองประสบปญหาการขาดแคลนที่ดินทํากินและตกอยูในภาวะยากจน ในอดีตนั้น การเชา
ที่ดินทํากินทําไดอยางจํากัดเนื่องจากที่ดินจํานวนมากกระจุกตัวอยูในมือนายทุนเพียงไมกี่ราย รัฐบาลได
เขามาแกปญหาดังกลาวโดยการนําที่ดินของรัฐไปจัดสรรใหประชาชนไดใชเปนที่ทํากินโดยมีสํานักงานการ
ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปนผูรับผิดชอบดูแล ทั้งนี้ นับตั้งแตเริ่มกอตั้งในป พ.ศ.2518 เปน
ตนมาจนถึงปจจุบัน ส.ป.ก. ไดมีการจัดสรรที่ดินทํากินใหเกษตรกรอยางตอเนื่องรวมแลวกวา 35 ลานไร
(ศูนยขอมูลขาวสาร ส.ป.ก. 2560) ซึ่งเปนตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ทําการเกษตรทั้งประเทศ
จํานวน 116 ลานไร (สํามะโนการเกษตร พ.ศ.2556 สํานักงานสถิติแหงชาติ) อยางไรก็ตาม จํานวนที่ดินที่
ส.ป.ก. ไดจัดสรรใหแตละครัวเรือนมีจํานวนจํากัด ดังนั้นที่ดินที่ถูกจัดสรรอาจไมเพียงพอตอการทําเกษตร
เพื่อเลี้ยงครัวเรือน อีกทั้งที่ดินที่ถูกจัดสรรก็มีขอจํากัดทางกายภาพหลายประการ เชน ที่ดินที่เดิมเคยเปน
ปาเสื่อมโทรมจะมีคุณภาพของดินที่ไมคอยเหมาะสมกับการเพาะปลูก ที่ตั้งของที่ดินเสี่ยงตอภัยธรรมชาติ
และขาดแคลนระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เปนตน ขอจํากัดเหลานี้สงผลใหเกษตรกรจํานวนไมนอย
ยังคงตองอาศัยการเชาที่ดินเพื่อทําการเกษตร
ปญหาการไรที่ดินทํากินของเกษตรกรเกิดจากหลายสาเหตุซึ่งลวนแลวแตมีความเกี่ยวโยงกับกลไก
ทางเศรษฐกิจอื่นๆ อยางมาก โดยเฉพาะอยางยิ่งกรณีปญหาการกระจุกตัวของที่ดินในมือคนกลุมนอยอัน
เปนผลสืบเนื่องจากความเหลื่อมล้ําทางรายไดของคนไทยนั่นเอง (อดิศร อิศรางกูร ณ อยุธยา และบัณฑูร
เศรษฐศิโรตน 2553) การขยายตัวของเขตชุมชนเมืองและภาคเศรษฐกิจสาขาอื่น (ไดแก ภาคอุตสาหกรรม
ภาคพาณิชยกรรม และภาคบริการ) เปนอีกหนึ่งปจจัยที่สงผลใหเกษตรกรจํานวนมากตองเผชิญกับปญหา
การไรที่ดินทํากิน นอกจากนี้ อัตราภาษีที่ดินกรณีที่ดินรกรางวางเปลาที่ถูกกําหนดไวคอนขางต่ํา และ
พระราชบัญญัติการเชาที่ดินเกษตกรรมซึ่งเอื้อประโยชนกับผูเชามากเกินไป ก็ลวนสงผลใหเจาของที่ดิน
ขาดแรงจูงใจที่จะใหเชาที่ดินและอาจเลือกปลอยทิ้งใหเปนที่ดินรกรางแทน (Boonyanam, 2016) จาก
รายงานของสํานักงบประมาณ พ.ศ.2542 พบวา ราษฎรที่ไมมีที่ดินทํากินของตนเองมีจํานวน 546,942
ครัวเรือน และจากการขึ้นทะเบียนคนจนในป พ.ศ.2547 พบวา ผูที่มาลงทะเบียนเปนผูที่ไมมีที่ดินทํากิน
รวม 1,003,360 ราย เปนผูเชาที่ดิน 378,077 ราย ยืมผูอื่นทํากิน 314,090 ราย และเปนผูรับจางทํา
การเกษตรจํานวน 311,193 ราย นอกจากนี้ ยังมีผูที่มีที่ดินทํากินแตไมพอเพียงและตองการที่ดินทํากิน
เพิ่มอีก 1,651,922 ราย รวมผูที่มาลงทะเบียนที่ไมมีที่ดินทํากินหรือมีที่ดินทํากินแตไมเพียงพอทั้งสิ้น
จํานวน 2,955,282 ราย สถิติดังกลาวชี้ใหเห็นถึงปญหาการขาดแคลนที่ดินทํากินในประเทศไทยไดอยาง
1-1