Page 43 -
P. 43

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




                   4.2 การเชาที่ดินเพื่อทําการเกษตรของครัวเรือน

                          การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจของครัวเรือนเกษตรในหลายๆ มิติดังที่ไดกลาวมาแลว

                   กอนหนานี้ รวมถึงการเชาที่ดินเพื่อทําการเกษตร ลวนเกิดจากการปรับตัวของเกษตรกรตอสภาวะ

                   แวดลอมที่เปลี่ยนแปลงไปและเนื่องจากราคาสินคาเกษตรสะทอนถึงการตอบสนองของผูผลิตและผูบริโภค
                   ในตลาด ดังนั้นราคาสินคาเกษตรจึงเปนตัวแปรที่นาจะสามารถใชอธิบายเรื่องการเชาที่ดินเกษตรของ

                   ครัวเรือนไดเปนอยางดี อยางไรก็ตาม มีความเปนไปไดที่แมวาราคาจะเปนแรงจูงใจที่สําคัญตอการขยาย

                   พื้นที่ทําการเกษตร แตปรากฎวาการใชที่ดินเกษตรไมสอดคลองกับราคาสินคาในชวงเวลาเดียวกัน เนื้อหา
                   ในสวนนี้จะกลาวถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินคาเกษตรหลักของไทยในชวงป ค.ศ.2000-2013 ใน

                   ฐานะแรงจูงใจหลักตอการขยายพื้นที่ของเกษตรกร จากนั้นจะอภิปรายถึงบทบาทของการเชาที่ดินเทียบ

                   กับการขยายที่ดินดวยวิธีอื่น และสุดทาย จะอภิปรายถึงผลสรุปขอคิดเห็นของเกษตรกรเรื่องกําไรกับ
                   โอกาสและขอจํากัดในการขยายที่ดินทําการเกษตร


                   4.2.1 สถานะการเชาที่ดินเพื่อการเกษตร

                          การเชาและใหเชาที่ดินของเกษตรกรมีแนวโนมลดลง ทั้งในแงของขนาดที่ดินและสัดสวน

                   ครัวเรือนที่เขารวมในตลาดการเชาที่ดิน (ตาราง 4.16) โดยในป ค.ศ.2000 ครัวเรือนเกษตรเชาที่ดิน อยูที่

                   รอยละ 32.81 โดยมีพื้นที่เชาเฉลี่ยตอครัวเรือนอยูที่ 8.72 ไร แตในป ค.ศ.2013  ตลาดเชาที่ดินซบเซาลง
                   ครัวเรือนเกษตรเชาที่ดินเพียงรอยละ 22.92 โดยพื้นที่เชาเฉลี่ยตอครัวเรือนลดลงเหลือ 6.86 ไร สัดสวน

                   การเชาที่ดินที่ลดลงในขณะที่สัดสวนการปลอยเชาที่ดินของครัวเรือนก็ลดลงเชนเดียวกัน สอดคลองกับ
                   สมมติฐานที่วาเกษตรกรจําเปนตองนําที่ดินของตนเองมาทําการเกษตรมากขึ้นเนื่องจากที่ดินเกษตร

                   บางสวนถูกนําไปใชประโยชนนอกภาคเกษตร ในขณะที่แรงจูงใจในการนําที่ดินตนเองมาทําการเกษตรเพื่อ

                   รับสิทธิ์การชวยเหลือจากรัฐบาล และขนาดครัวเรือนที่เล็กลงพรอมๆ กับอายุหัวหนาครัวเรือนทึ่สูงขึ้น ก็
                   ลวนมีสวนทําใหพื้นที่เชาและปลอยเชาลดลง


                   ตาราง 4.16 จํานวนการเชาที่ดินเพื่อทําการเกษตร

                                                        2000       2003       2007      2010       2013
                   สัดสวนครัวเรือนที่เชาที่ดินจากผูอื่น   32.81%  36.20%  30.47%  28.65%  22.92%

                   พื้นที่เชาจากผูอื่นตอครัวเรือน(ไร)   8.72   10.86      8.42       7.88       6.86

                   สัดสวนครัวเรือนที่ปลอยที่ดินใหผูอื่นเชา   5.99%   9.11%   3.91%   4.43%    4.43%
                   พื้นที่ปลอยใหผูอื่นเชาตอครัวเรือน (ไร)   1.59   2.29   0.87     0.94       0.86

                   ที่มา: จากการคํานวนของผูวิจัยจากฐานขอมูล Townsend Thai Project (2013)


                          เมื่อพิจารณาในรายจังหวัดพบวา การเชาที่ดินเพื่อทําการเกษตรของครัวเรือนในภาคกลางสูงกวา
                   ภาคอีสานอยางชัดเจน และขนาดพื้นที่เชาเฉลี่ยสูงกวาพื้นที่ปลอยเชา (ตาราง 4.17) ยกตัวอยางเชน

                   ครัวเรือนเกษตรในจังหวัดฉะเชิงเทราที่มีการเชาที่ดินจะเชาที่ดินเพื่อทําการเกษตรเฉลี่ย 31.96 ไรตอ






                                                            4-25
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48