Page 188 -
P. 188
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
170 การถ่ายโอนพลังงานและการหมุนเวียนของอากาศ
กลับกัน เมื่อกลุ่มอากาศถูกท าให้จมลงความดันของอากาศโดยรอบท าให้กลุ่มอากาศมีขนาดลดลง
และอุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อกลุ่มอากาศขยายตัวและเย็นตัวลงหรือถูกกดดันให้มีขนาดเล็กลงและร้อน
ขึ้นโดยไม่มีการรับหรือคายความร้อนหรือแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศโดยรอบ เรียก
กระบวนการที่เกิดขึ้นในขณะนั้นว่า กระบวนการอะเดียแบติก (adiabatic process) อากาศที่จมตัวลง
และร้อนขึ้นจะมีศักยภาพในการรับไอน ้าได้มากขึ้น เพราะอากาศร้อนมีศักยภาพในการรับปริมาณ
ไอน ้าถึงระดับอิ่มตัวมากกว่าอากาศเย็น การจมลงของอากาศจึงเป็นการยับยั้งการควบแน่น
ตลอดจนการเกิดเมฆและฝน ในทางตรงกันข้าม อากาศที่ลอยขึ้นและเย็นลงจะมีศักยภาพในการ
รับปริมาณไอน ้าที่ระดับอิ่มตัวลดลง ดังนั้นไอน ้าในอากาศปริมาณไม่มากนัก เมื่อลอยขึ้นไปจะมี
โอกาสอิ่มตัวด้วยไอน ้าได้ง่ายและเป็นการช่วยเสริมการก่อตัวของเมฆและฝน
พฤติกรรมด้านความดันของอากาศภายหลังจากการเพิ่มอุณหภูมิหรือเพิ่มมวล
อากาศหรือทั้งสองกรณีเข้าไปในบริเวณจ ากัดจะท าให้ความดันอากาศเพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์
ดังกล่าวเป็นพื้นฐานที่ส าคัญทางอุตุนิยมวิทยาในการจ าแนกบริเวณความดันอากาศต ่าและบริเวณ
ความดันอากาศสูง ความแตกต่างของความดันอากาศในแนวราบท าให้เกิดแรงกระท าต่ออากาศ
บริเวณความดันอากาศสูงไหลไปยังบริเวณที่มีความดันอากาศต ่ากว่า เรียกแรงนี้ว่า
แรงเกรเดียนท์ของความดันอากาศ (pressure gradient force) การใช้แรงเกรเดียนท์ของความดัน
อากาศเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างอากาศที่อยู่ในระดับสูงเท่ากัน แต่มีแรงดันของอากาศแต่
ละพื้นที่แตกต่างกัน