Page 50 -
P. 50
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
49
กรรมาชีพมีสิทธิที่เท่าเทียมกัน ดังนั้นการพัฒนาจึงหมายถึง ความก้าวหน้าขั้นสูงสุดซึ่งจะเกิดได้ต้อง
ทําลายล้างการจัดระเบียบทางสังคมแบบทุนนิยม
นอกจากนี้ มาร์กซ์ได้วิพากษ์ระบบทุนนิยม โดยกล่าวถึงความทุกข์ทน 4 ชนิดของแรงงาน
ต่างด้าวที่เกิดขึ้นในยุคทุนนิยม ได้แก่
1. ความทุกข์ทนจากผลิตผลที่ผู้ผลิตไม่ได้ใช้ผลผลิต
2. ความทุกข์ทนจากกระบวนการการผลิตที่ต้องทุกข์ทนทํางานหามรุ่งหามค่ํา
3. ความทุกข์ทนจากสภาวะของการผลิตที่ไม่ได้พัฒนาความเป็นมนุษย์ให้กับผู้ผลิต
4. ความทุกข์ทนจากการที่ต้องผลิตเพื่อแลกเปลี่ยนมากกว่าเพื่อความพึงพอใจของมนุษย์
ระบบคิดของสังคมทุนนิยมคิดแต่เรื่องของกําไร ขาดทุน ค่าเช่า ค่าจ้าง การแลกเปลี่ยน ฯลฯ
ซึ่งในหนังสือของเขาเรื่อง "ทุน” (The Kapital) ได้กล่าวไว้ว่า รูปแบบการผลิตแบบทุนนิยม บังคับให้
กรรมกรจําเป็นต้องขายแรงงานของตนเองในราคาถูกแก่นายทุน ดังนั้นกําไรของนายทุนแท้จริงแล้ว
เกิดจากการขูดรีดมูลค่าส่วนเกินจากค่าแรงของกรรมาชีพเพื่อกําไร ชนชั้นนายทุนจึงต้องพัฒนา
เครื่องมือและวิธีการการผลิตให้ก้าวหน้าขึ้นตลอดเวลา ต้องขยายตลาดสินค้า แหล่งวัตถุดิบและ
กิจการไปทั่วโลก การผลิตแบบทุนนิยมนี้ทําให้เกิดความปั่นป่วนและวิกฤติทางเศรษฐกิจแบบวัฎจักร
นั่นคือ การผลิตล้นเกิน ท่ามกลางโลกที่อดหยากขาดแคลน เพื่อแก้ไขวิกฤติการผลิตล้นเกิน และรักษา
ราคาของผลผลิตให้สูงกว่าต้นทุน จึงต้องทําลายผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด พยายามขยายตลาด
ใหม่ และใช้ตลาดเก่าให้เป็นประโยชน์ ซึ่งผลสุดท้ายก็จะนําไปสู่วิกฤตที่รอบด้านยิ่งขึ้นและรุนแรง
ยิ่งขึ้น ทําให้ความขัดแย้งทางชนชั้นในสังคมรุนแรงขึ้น จนนําไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมในที่สุด จาก
ปรากฏการณ์ดังกล่าว มาร์กซ์ เห็นว่า สิทธิ เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในสังคมทุนนิยมนั้น
เป็นจริงเฉพาะกับผู้ที่มีทรัพย์สิน ไม่ใช่สําหรับกรรมมาชีพและคนยากจน การที่มนุษย์ถูกทําให้ยอมรับ
ว่ามีความรวยความจนนั้น มาร์กซ์ เรียกว่าจิตสํานึกหลอกลวงและจอมปลอม (False Conciousness)
ซึ่งเป็นตัวกําหนดพฤติกรรมในสังคมมนุษย์ให้ถูกครอบงําโดยปัจจัยในการผลิต คือ ทุน เครื่องมือ ที่ดิน
และที่สําคัญ คือ แรงงาน
อย่างไรก็ดี การพัฒนารัฐบนโลกใบนี้จะเห็นได้ว่าแนวคิดและทฤษฎีของนักวิชาการในกลุ่ม
ของคาร์ล มาร์กซ์ ไม่สามารถต้านระบบทุนนิยมภายใต้ทฤษฎีความทันสมัย ซึ่งเป็นกระแสหลักของ
การพัฒนาได้ เริ่มจากปรากฎการณ์ที่พรรคคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกหมดอํานาจลง กําแพง
เบอร์ลินในประเทศเยอรมนีได้ถูกทุบทําลายลงไป มีการประกาศรวมประเทศระหว่างเยอรมนี
ตะวันออกกับตะวันตก ตามด้วยการล่มสลายของสหภาพโซเวียตแตกเป็นรัฐอิสระต่าง ๆ กว่า 20