Page 158 -
P. 158

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

                                                                                                                                                        138



                          2.  บลูโทปาส (Blue Topaz) เป็นผลึกของแร่ควอทซ์ชนิดหนึ่งที่มีสีขาว แต่ความฉลาดของ

                              มนุษย์น าไปเจียระไนแล้วฉายรังสีท าให้โครงสร้างทางเคมีของพลอยเปลี่ยนและให้สีฟ้า
                              สว่างใส เป็นพลอยประจ าเดือนเกิดเดือนพฤศจิกายน


                          3.  สรรพคุณของดอกอัญชัน ประกอบด้วย สารแอนโธไซยานิน  สารอดีโนซีน สารแอฟเซลิน

                              และกรดอราไชดิก  มีสรรพคุณเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ แก้ฟกช ้าบวมและ

                              รักษาอาการผมร่วง





                                                         เครื่องดื่ม- ชา




                          “เครื่องดื่มจากชา”  เริ่มจากในประเทศจีนเมื่อ  5000 ปี มาแล้ว โดย จักรพรรดิเชงนัง (Sheng

                   Nung) ผู้ทรงอ านาจ และเป็นจักรพรรดิที่ชื่นชอบในงานแขนงต่าง ๆ ทั้งทางด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์

                   ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า จักรพรรดิผู้นี้นิยมดื่มน ้าที่ผ่านการต้มเพื่อความสะอาดเสมอ  อยู่มาวันหนึ่งในช่วงฤดูร้อน

                   ของการเสด็จประพาสป่าของพระองค์  ในขณะที่ทหารก าลังต้มน ้าให้จักรพรรดิได้มีใบไม้แห้งชนิดหนึ่ง
                   ปลิวตกลงไปในน ้าต้มนั้นท าให้น ้ามีสีน ้าตาลอ่อน  เมื่อจักรพรรดิได้ทดลองเสวย พระองค์ท่านพบว่ามัน

                   ให้กลิ่นหอมและท าให้รู้สึกสดชื่น และหลังจากนั้นเองการดื่มชาก็ได้เริ่มขึ้นและแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้

                   ความนิยมในการดื่มชาในประเทศญี่ปุ่น เริ่มขึ้นในปี 1394  ในทวีปยุโรป เริ่มรู้จักและดื่มชาในปี 1560 ที่

                   ประเทศโปรตุเกส  เพราะโปรตุเกสท าการค้ากับประเทศจีนในสมัยก่อนและหลังจากนั้นชาได้มีการขยาย
                   เข้าไปในประเทศฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ในปี 1602  การดื่มชาในทวีปอเมริกา เริ่มเข้าไปครั้งแรกใน

                   ย่าน New Amsterdam ต่อมาเรียกว่า นิวยอร์กในปี 1650 โดยพ่อค้าชาวเนเธอร์แลนด์ได้น าเข้าไป  ยุคแรก

                   การดื่มชาของอังกฤษเกิดขึ้นระหว่างปี 1652 – 1654 ซึ่งต่อมาเครื่องดื่มจากชามีบทบาทมากขึ้น และชาว
                   อังกฤษหันมาดื่มชาแทนเครื่องดื่มประจ าชาติท าจากข้าวหมักที่เรียกว่า เอล (ale) และหลังจากนั้น

                   วัฒนธรรมการดื่มชา ในประเทศอังกฤษ และประเทศในยุโรปก็แพร่ขยายไปทั่วทุกระดับของสังคม

                   โดยเฉพาะการเสิร์ฟชากับอาหารว่างชนิดต่าง ๆ (http://th.wikipedia.org/wiki/)


                          “เครื่องดื่มจากชา”  เป็นเครื่องดื่มที่มีการบริโภคกันมากกว่า 3 ล้านตันในแต่ละปี (ข้อมูลในปี
                   2552) ชาจึงถูกจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้จ านวนมหาศาลให้กับประเทศที่ผลิตชา  ประเทศไทยเรา

                   มีการบริโภคชาและสามารถผลิตชาได้  แต่ปริมาณการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคชา
                   ในประเทศ  ในแต่ละปีเราผลิตชาได้เพียงปีละประมาณ 11,000 ตัน (ข้อมูลในปี 2549)  ในขณะเดียวกัน

                   ประเทศไทยยังต้องน าเข้าชาจากต่างประเทศ ปีละมากกว่า 500 – 700 ตัน ต่อปี ซึ่งมีมูลค่าถึงประมาณ 40

                   ล้านบาท  (http://www.maejopoll.mju.ac.th/office/2011_maejopoll/boxer/20788.pdf)  ดังนั้น กระทรวง
   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163