Page 122 -
P. 122

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

             101




                    4.5.2 ภาคการตลาด ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก


                    สภาวการณ์ด้านการตลาด กลุ่มผู้ค้า/ตลาดในพื้นที่จังหวัดนครปฐมมีความเห็นว่าตลาดพริกสามารถ

             ประกันราคาได้ ประมาณ 20 บาท /กิโลกรัม จะต้องเป็นผลผลิตพริกที่ได้ คุณภาพและมีความปลอดภัย โดย
             จะต้องทําสัญญาร่วมกัน เกษตรกรจะต้องไม่ขายผลผลิตให้กับผู้รวบรวมผลผลิตรายอื่นที่ให้ราคาสูงกว่า

             ในช่วงที่ผลผลิตพริกได้ราคาสูง และเกษตรกรจะต้องสามารถผลิตให้ได้ปริมาณและคุณภาพตามความ

             ต้องการของตลาด  โดยวางแผนการผลิตร่วมระหว่างกลุ่มผู้ผลิตและกลุ่มผู้ค้า/ตลาด โดยที่ผ่านมาเกษตรกร

             กลุ่มที่ขายให้กับบริษัทบางกลุ่มขายให้กับพ่อค้า แม่ค้า รายอื่นในช่วงที่ให้ราคาดีกว่า ทําให้บริษัทได้รับความ
             เสียหาย เนื่องจากมีการตกลงทางการค้าไว้ล่วงหน้า และไม่สามารถหาผลผลิตส่งให้ยังกลุ่มผู้ค้า/ตลาด

             ปลายทางตามแผนได้


                    ปัจจุบันการในการทําการค้าสําหรับกลุ่มพ่อค้า/ตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีความยุ่งยาก ลําบาก

             มากขึ้น เนื่องจากตลาดปลายทางเป็นผู้กําหนดราคา ผู้ค้าจะต้องส่งผลผลิตให้ตลาดปลายทางก่อน จึงจะมีการ
             กําหนดราคา ทําให้มีความเสี่ยงในการขาดทุน และเสี่ยงต่อความคุ้มทุนของการค้ามากขึ้น ในการทําการค้าจึง

             มีความจําเป็นต้องตรวจสอบความเคลื่อนไหวของราคา จึงจะกําหนดราคาผลผลิตเกษตรกร หรือยังไม่กําหนด

             ราคาผลผลิตของเกษตรกร ทําให้เกษตรกรเองขาดความมั่นใจ เช่น ตลาดปฐมมงคล ปัจจุบัน ปริมาณการค้าส่ง

             ผลผลิตพริกน้อยละ คงเหลือเพียงวันละประมาณ 1 ตัน


                    แนวทางการพัฒนาด้านการตลาดซึ่งเป็นโครงการของจังหวัดนครปฐม เป็นความร่วมมือกันระหว่าง

             สภาอุตสาหากรรม และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัด โดยมีกลุ่มบริษัทที่ให้ความร่วมมือเข้าร่วม
             โครงการประมาณ 10 บริษัท เพื่อสร้างมาตรฐานในการส่งออกผลผลิตพืชผักปลอดภัย มีช่องทางการตลาดทั้ง

             ยุโรปและเอเชีย ถ้าเกษตรกรสามารถผลผลิตผลผลิตคุณภาพตามความต้องการของตลาด ราคาผลผลิตจะดีกว่า

             เกษตรกรส่งแบบทั่วไป ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าเกษตรกรไม่จําเป็นต้องผลิตพริกในปริมาณมาก แต่ผลิตแบบ
             คุณภาพ ในปริมาณที่พอเหมาะ มีการจัดการที่ดี ทําให้เกษตรกรลงทุนน้อย และได้กําไรสูงกว่า มีช่องทางใน

             การขายผลผลิตทั้งหมดโดยเชื่อมโยงกับโครงการฯ สามารถใช้พันธุ์เดิมที่เกษตรกรปลูก ผลผลิตของเกษตรกร

             ที่ผลิตได้คุณภาพสามารถส่งขายให้กับโครงการฯ ได้ทั้งหมด ผลผลิตที่ได้ขนาดและคุณภาพจะถูกบริษัท
             ส่งออกไปยังต่างประเทศ ส่วนผลผลิตไม่ได้ขนาด(ตกเกรด) จะเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีหน่วยงาน

             มกอช. กําลังศึกษา และทางภาคอุตสาหกรรมให้ความร่วมมือในการรับผลผลิตเพื่อแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม

             ต่อไป (ภาพที่ 4-14)
   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127