Page 29 -
P. 29
โครงการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
22 สัทวิทยา : การวิเคราะหระบบเสียงในภาษา บทที่ 2 เสียงพยัญชนะ
สิ่งที่นาสนใจในเรื่องของวีโอที ก็คือ เปนมาตรฐานที่คอนขางจะแนนอนใชบอกความ
แตกตางของเสียงกักทั้ง 3 ประเภท ดังที่กลาวมาแลว การจําแนกเสียงกักโฆษะและอโฆษะ ตามประเพณี
นิยมที่เคยใชกันมานั้น ไมไดใหความแนนอนเทากับคาวีโอที ตัวอยางเชน เสียงกักโฆษะในภาษาอังกฤษ
/b, d, I/ ลิสเกอรและอับบรัมสัน พบวา ในตนพยางคเสียงกักโฆษะไมมีการสั่นของเสนเสียงในชวงเวลา
ที่ปดฐานกรณ แตเสนเสียงเริ่มสั่นหลังจากเปดฐานกรณแลวเล็กนอย ฉะนั้นเสียงกักโฆษะ และอโฆษะ
เชน /d/ และ /t/ในภาษาอังกฤษในตําแหนงตนพยางค ตางก็มีคาวีโอทีเปนคาบวก โดยที่ /d/ มีคาวีโอทีต่ํา
และ /t/ มีคาวีโอทีสูง
ในทํานองเดียวกัน ลิสเกอรและอับบรัมสัน พบวาในการออกเสียง อโฆษะธนิต และอโฆษะ
สิถิลโดยทั่วๆไป เสียงสิถิลเปนเสียงมีลมดวย ไมไดเปนเสียงไมมีลมดังที่เขาใจกันตามคําอธิบายทั่วๆไป
แตเสียงทั้งสองประเภทซึ่งตางก็มีคาวีโอทีเปนคาบวกในภาษาจํานวนมากนั้นมีความตางกันที่เสียงสิถิล
h
เชน [p] มีคาวีโอทีต่ํา ขณะที่เสียงธนิต เชน [p ] จะมีคาวีโอทีสูง ฉะนั้นการอธิบายตามประเพณีนิยมที่ทํา
กันมาโดยจําแนกเปนเสียงกักแบบมีลมกับไมมีลมนั้น อาจจะไมถูกตองครบถวน ลิสเกอรและอับบรัมสัน
จึงเสนอการจําแนกเสียงกักโดยคาวีโอทีแทน
สําหรับเสียงกักอโฆษะ คาวีโอทียังแปรผันเล็กนอยตามตําแหนงของฐานกรณ คือ ที่
ตําแหนงเพดานออน [k*, k] จะมีคาวีโอทีสูงกวาที่ปุมเหงือก [t*, t] และสูงกวาที่ริมฝปากทั้งสอง [p*, p]
ตามลําดับ ทั้งนี้เนื่องจากเวลาที่ฐานกรณเคลื่อนที่ออกจากกันในการเปดฐานกรณนั้น ตําแหนงเพดานออน
ใชเวลานานกวาตําแหนงอื่นๆ ซึ่งคงจะเกิดจากความเชื่องชาในการเคลื่อนตัวของกลามเนื้อลิ้น
(ดูตารางแสดงคาวีโอทีในภาคผนวก)
2.5.4 การรับรูจําแนกเสียงกัก (Categorial Perception of Stops)
พิซโซนี (Pisoni,1977) ไดทําการทดลองเกี่ยวกับการรับรูเสียงของมนุษย และพบวา
เสียงสองเสียงซึ่งมีจุดเริ่มตนที่หางกันไมเกิน 20-40 มิลลิเซคเคินด (0.002-0.004 วินาที) ผูฟงจะไมสามารถ
แยกเสียงทั้งสองออกจากกัน คือ จะไดยินประสมประสานเปนเสียงเดียวกัน แตถาชวงเวลาที่เสียงทั้งสอง
เริ่มตน ใชเวลาหางกันนานกวา 20-40 มิลลิเซคเคินด ผูฟงจะไดยินเสียงทั้งสองแยกจากกันเปนสองเสียง
ในทํานองเดียวกัน จากการทดลองการรับรูเสียงกักชนิดตางๆ (categorical perception
of stops) พบวา เสียงกักสองเสียงที่มีคา วีโอทีหางกัน ตั้งแต + 20 มิลลิเซคเคินด ขึ้นไป ผูฟงจะสามารถ
จําแนกเสียงกักทั้งสองเปนสองชนิดตางกันคือระหวาง โฆษะ กับ อโฆษะหรือระหวางอโฆษะสิถิล
กับอโฆษะธนิต (Lisker & Abramson 1971, Pisoni & Lazarus 1973)
ถาเราจัดเวลาแบงเขตของคาวีโอทีจากการรับรูเสียง เราจะไดคาคราวๆ ดังนี้