Page 50 -
P. 50
32 33
ิ
ื
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ิ
ิ
์
ิ
ื่
1.1 การประมงทะเล ท่าเรือของประเทศเจ้าของเรือ (คณะอนุกรรมการจัดการความรู้เพอผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล,
การประมงทะเล หมายถึง กิจกรรมการจับสัตว์น้ำเค็ม ทั้งนี้รวมถึง ปลาทะเล กุ้งทะเล ปู และ 2562)
ื้
หอยทะเล ที่อาศัยอยู่บริเวณผิวน้ำ (pelagic) และบริเวณพนท้องน้ำ (benthic หรือ demersal)
โดยแหล่งทำการประมงอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล (coastal areas) บรเวณไหลทวีป (continental
ิ
่
shelf) และบริเวณน่านน้ำทะเลเปิด (open sea) (สุวัจน์ ธัญรส, 2550) ในปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทย
สามารถจับสัตว์น้ำเค็มได้มากถึง 1,299.5 พนตัน คิดเป็นมูลค่า 63.6 ล้านบาท โดยจับได้กลุ่มปลาผิว
ั
น้ำมากที่สุด (ได้แก่ ปลากะตัก ปลาลัง และปลาทูแขก เป็นต้น) รองลงมาคือกลุ่มปลาหน้าดิน (ได้แก่
้
๊
ปลาทรายแดง ปลาปากคม และปลาตาหวาน เป็นตน) หมกกล้วย กุ้งแชบวย ปูม้า และหอยลาย
ึ
ั
ตามลำดับ (กรมประมง, 2565) การประมงทะเลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ไดแก การประมงชายฝ่ง
้
่
และการประมงเชิงพาณิชย์
1.1.1 การประมงชายฝั่ง
ั
่
ื้
การประมงชายฝง (inshore fisheries) หรือ ประมงพนบ้าน (artisanal fisheries) เป็นการ
ื่
ประมงเพอยังชีพ ใช้เครื่องมือแบบง่าย ๆ ใช้แรงงานคน และใช้เรือขนาดเล็ก ยกตัวอย่างเช่น ลอบปู
เบ็ด แห และอวนทับตลิ่ง เป็นต้น กิจกรรมการประมงมีความสัมพนธ์กับวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน
ั
เป็นแหล่งอาหารและแหล่งรายได้ สร้างอาชีพให้แกคนไทยจำนวนมาก จากการสำรวจพบว่าในปี พ.ศ.
่
2543 มีครัวเรือนที่ทำประมงทะเลตามข้อมูลของสำมะโนประมงทะเลจำนวน 55,981 ครวเรอน
ั
ื
ครอบคลุมหมู่บ้านมากกว่า 2,000 หมู่บ้าน ดงแสดงในภาพที่ 2.1 (สนิท อกษรแก้ว, 2545) ซึ่ง
ั
ั
ิ
้
ื
ั
ิ
ั
ิ
ปรมาณการจับสตว์น้ำจากการทำประมงพนบ้านคดเป็นร้อยละ 10 จากปริมาณผลผลตสตว์น้ำจาก
การประมงทะเลทั้งหมด
1.1.2 การประมงเชิงพาณิชย ์
ื่
์
การประมงเชิงพาณิชย (commercial fisheries) เป็นการประมงเพอแสวงหากำไร มีการใช้
ุ
เรือขนาดใหญ่ ติดเครื่องยนต์ มีอปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีการใช้ห้องเย็นเพอเก็บรักษาปลา
ื่
้
ั
่
ิ
และใช้เครื่องมือทำการประมงขนาดใหญ เช่น อวนลาก อวนลอมจบ อวนครอบ อวนตดตา อวนรุน
ี
เคย และเบ็ดราวทะเลลึก เป็นต้น เครองมอเหลานทำใหการทำการประมงสามารถเดินทางออกไป
้
่
ื
้
่
ื
นอกชายฝั่งได้มากขึ้นและสามารถเดินทางได้หลายวัน โดยเรือประมงพาณิชย์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
ได้แก่ เรือประมงน้ำลึก (deep sea fisheries) หรือเรือประมงนอกชายฝั่ง (offshore fisheries) ซึ่ง
ทำการประมงห่างจากชายฝั่ง แต่ยังคงอยู่ในน่านน้ำประเทศไทย (ระยะทางไม่เกิน 200 ไมล์ทะเลจาก
ั
ื
ชายฝ่ง) และเรอประมงสากล (distant water fisheries) หรือเรือประมงนอกน่านน้ำ (oversea
ภาพที่ 2.1 แผนที่ความหนาแน่นของครัวเรือนที่ทำการประมงทะเล พ.ศ. 2543
fisheries) ซึ่งทำการประมงนอกน่านน้ำประเทศไทย เป็นการจับปลาในมหาสมุทร ระยะทางไกลจาก
ที่มา: สนิท อักษรแก้ว (2545)
32 การจััดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่่�ง
���������������������������������� �.�������� ���������.indd 32 8/8/2567 10:48:46
���������������������������������� �.�������� ���������.indd 32
8/8/2567 10:48:46