Page 174 -
P. 174

ิ
                               ื
                 โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                  ิ
                                               ์
                                                                 ิ
                                                                             ิ
                                                                                                       4-3

                       ในแผนผังดังกล่าว EEC ได้ก าหนดสัดส่วนที่ดิน การใช้ที่ดินในปี พ.ศ. 2580 ในพื้นที่จังหวัดระยอง
               ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งมีเนื้อที่รวม 8,291,250 ไร่ ออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ไว้ดังนี้

                              (1) พื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรม 5.12% หรือ 424,854 ไร่
                              (2) พื้นที่พัฒนาเมือง 13.23% หรือ 1,096,979 ไร่
                              (3) พื้นที่พัฒนาเกษตรกรรม 58.50% หรือ 4,850,831 ไร่
                              (4) พื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 20.24% หรือ 1,678,753 ไร่

                              (5) พื้นที่อื่นๆ (ถนน, แหล่งน้ า) 2.91% หรือ 241,275 ไร่

               4.2 การซื้อขายที่ดินในภาคตะวันออก

                       การทบทวนเรื่องการซื้อขายที่ดินในภาคตะวันออกได้แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ (1) ในช่วงการ
               พัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (ESB) (2) ในช่วงโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมี
               รายละเอียดดังนี้
                       4.2.1 การซื้อขายที่ดินในช่วงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

                       ประชาชาติธุรกิจฉบับพิเศษ (2532: 74-77) ได้รายงานสถานการณ์ซื้อขายที่ดินในภาคตะวันออก
               ตั้งแต่เริ่มโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (ESB) โดยเฉพาะในจังหวัดระยองไว้ดังนี้
                              “ขบวนทัพนักค้าที่ดินจากกรุงเทพฯและใกล้เคียงหลั่งไหลกันเข้ามากว้านซื้อที่ดินอย่างไม่ขาดสาย

               ปรากฏการณ์นี้ท าให้ชาวภาคตะวันออกไม่อาจนั่งนิ่งดูกิจกรรมทางธุรกิจที่คึกคักเช่นนี้ได้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลก
               ใจเลยที่ผู้คนทุกอาชีพทุกวงการของภาคตะวันออกต่างหันมาจับงานอดิเรกเป็นนายหน้านักค้าที่ดินกันอย่างเอา
               จริงเอาจังจนแทนไม่มีเวลาให้กับงานอาชีพหรือธุรกิจหลักของตนกันเลย
                              โดยที่ก่อนหน้านี้กระแสของการกว้านซื้อที่ดินเริ่มปรากฏในเขตบริเวณแหล่งท่องเที่ยวส าคัญ
               เช่น พัทยา หาดนาจอมเทียน หาดแม่ร าพึง บ้านเพ อันเนื่องมาแต่การส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย

               2530 กับพื้นที่ที่เป็นป่าชายเลนตลอดแนวตั้งแต่ระยอง จันทบุรี และตราด อันเนื่องมาแต่กุ้งกุลาด าฟีเวอร์
               ที่ฮิตกันทั่วประเทศ
                              ส่วนพฤติกรรมของการซื้อที่ดินอันเนื่องมาแต่โครงการอีสเทิร์นบอร์ด ส่งผลกระทบต่อพื้นที่

               เป็นวงกว้างมหาศาลทั่วทั้งภาค ตั้งแต่เขตอ าเภอบางปะกงริมถนนสายบางนา-ตราด ไหลหลากมาตามย่านถนน
               สุขุมวิทผ่านอ าเภอเมืองชลบุรี อ าเภอศรีราชา เมืองพัทยา สัตหีบเข้าสู่เขตอ าเภอบ้านฉาง เขตอ าเภอเมือง
               ระยอง นับแต่ช่วงปี 2529 เป็นต้นมา
                              โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดเป้าหมายละแวกท่าเรือแหลมฉบังศรีราชา ย่านนิคมอุตสาหกรรม

               มาบตาพุด บ้านฉาง ชายหาดแม่ร าพึง บ้านเพ
                              จากนั้นก็ไหลขึ้นสู่ทั่วภูมิภาคไปตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 จากสัตหีบขึ้นสู่
               ศรีราชา บ่อทอง บ้านบึง พนัสนิคมเลยขึ้นอ าเภอแปลงยาว บางคล้าและทั่วจังหวัดฉะเชิงเทราแล้วเลี้ยวขวาเข้า
               สู่เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 เข้าอ าเภอพนมสารคาม ไปทะลุอ าเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

               ขึ้นสู่กิ่งอ าเภอนาดีออกมาที่อ าเภอปักธงชัย  จังหวัดนครราชสีมา อันเนื่องมาจากกระแสข่าวการเชื่อมโยง
               อีสเทิร์น ซีบอร์ดกับภาคอีสานด้วยเส้นทางถนน 2 สายนี้”
                              อุบัติการณ์ดังกล่าวสร้างความเร้าใจและพลิกโฉมชีวิตของชาวภาคตะวันออกไปทั่วทั้งหมด
               ทั้งชาวบ้านและนักธุรกิจในชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี กลายเป็นนักค้าที่ดิน
   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179