Page 133 -
P. 133

ิ
                 โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                                                             ิ
                               ื
                                               ์
                                            ิ
                                  ิ
                                                                                                    3-13

                              ตอมาในวันที่ 17 กุมภาพันธ พ.ศ.2530 คณะรัฐมนตรีไดมีมติเห็นชอบที่จะใหการปโตรเลียม
                                                                                                   
                                ํ
                                                                         
                                                                      ิ
                                                                                           ี
                                   ิ
               แหงประเทศไทย ดาเนนโครงการกอสรางโรงแยกกาซธรรมชาตหนวยที่ 2 ในบริเวณเดยวกับหนวยที่ 1
               ใชงบประมาณ 2,057 ลานบาท โดยมีขนาดแยกกาซธรรมชาติไดวันละ 250 ลานลูกบาศกฟุต
                                                      ิ
                                                                              
                                                         
                              โครงการโรงแยกกาซธรรมชาต หนวยที่ 2 มีขนาดแยกกาซไดวนละ 200-250 ลานลูกบาศกฟุต
                                                                               ั
                                ี
                        ู
                                                                                                 ุ
                                                                                           
                                                                                              ั
                                        
               และตงอยบริเวณเดยวกับหนวยที่ 1 โดยลักษณะกระบวนการผลิตคลายกับหนวยที่ 1 ดวยวตถประสงค       
                                                                                   
                    ั้
                                                                                    ํ
                                                                                       
               สําคัญเพื่อสนองตอบความตองการใชกาซหุงตมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากจนตองมีการนาเขามาทดแทน รวมทั้ง
               แยกกาซโปรเพน กาซอีเทน และกาซโซลีนธรรมชาติดวย
                                                                         
                              โรงแยกกาซธรรมชาต หนวยที่ 2 เปดดาเนนงานอยางเปนทางการเมื่อวนที่ 21 มกราคม
                                                    
                                                                                          ั
                                                               ํ
                                                                  ิ
                                                ิ
                                                    
                                                                                                
                                                                                             ํ
                                                                                       ั
                                                                       
                                                                    ุ
               พ.ศ.2534 เปนโครงการที่ใหผลตอบแทนตอการลงทุนอยางคมคา สามารถประหยดการนาเขา แอลพีจี
                                                                 
                                                                                                     
                                                                
                                                       ิ
                                                                                       ั
                                                          
               กาซโปรเพน กาซอีเทน และกาซโซลีนธรรมชาต ไดปละกวา 1,600 ลานบาท อีกทั้งยงแยกกาซเพื่อใชเปน
               เชื้อเพลิงแทนน้ํามันเตาไดอีกปละกวา 600 ลานบาท
                              โรงแยกกาซ 3 การปโตรเลียมแหงประเทศไทยจึงกอสรางโรงแยกกาซธรรมชาต หนวยที่ 3
                                                                                                   
                                                                                               ิ
                                                                                                    ิ
               ในบริเวณเดียวกับหนวยที่ 1 และ 2 มีขนาดกําลังการผลิตวนละ 350 ลานลูกบาศกฟุต โดยเริ่มดาเนนการ
                                                                                                ํ
                                                                 ั
               ผลิตในเดือนมกราคม พ.ศ.2540 โรงแยกกาซธรรมชาต กระแสไฟฟาโดยมีกําลังการผลิตจากเครื่องกําเนด
                                                                                                       ิ
                                                             ิ
               ไฟฟาชนิดกังหันกาซ Gas Turbine generator จํานวน 2 หนวย สามารถผลิตกระแสไฟฟารวมทั้งสิ้น 26.5
               เมกะวัตต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใหแกกระบวนการแยกกาซธรรมชาติดวย

                              ประโยชนตอสวนรวมที่จะไดจากโรงแยกกาซธรรมชาต  ิ
                                 1. ชวยประหยัดเงินตราตางประเทศ โดย ประหยัดคาเชื้อเพลิงที่เคยนําเขา และลดการ
               นําเขาวัตถุดิบที่โรงแยกกาซฯ และอุตสาหกรรมตอเนื่องผลิตไดปหนึ่งๆ กวาพันลานบาทขึ้นไป
                                 2. ลดตนทุนวัตถุดิบทางอุตสาหกรรม และทําใหอุตสาหกรรมขนาดเล็กเกิดขึ้นได และมี
                                                                                                  ํ
               โอกาสเติบโตพัฒนาตอไป ไปอนาคตอาจจะขยายกําลังผลิตจนสามารถสงออกไปขายตางประเทศนารายได      
                                                                                       
               เขาประเทศเพิ่มขึ้นทางหนึ่งดวย
                                                                                ั
                                 3. ชวยสงวนรักษาทรัพยากรของประเทศ และลดการตดไมทําลายปาลงไดอยางมาก
                                                                                                
                                                                                                   
               เมื่อประชาชนหันมาใชกาซหุงตมหรือแอลพีจี แทนฟนและถานไม และแทนที่จะนากาซธรรมชาตไปเผาไหม
                                                                                   ํ
                                                                                               ิ
               แตอยางเดยว การทํางานของโรงแยกกาซธรรมชาตยงสามารถแยกเอากาซที่มีคาออกมาใชประโยชนอื่นๆ
                                                                                            
                        ี
                                                                                  
                                                           ิ
                                                            ั
                                                                                                    
               ไดอยางเต็มที่
                                                                                           
                                                                        
                                     
                                 4. ชวยเสริมสรางความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ดวย การลดการพึ่งพาดานพลังงานจาก
                                                                                                     ิ
               ตางประเทศ และสามารถผลิตวัตถุดิบพื้นฐานสําหรับอุตสาหกรรมยอยหลายชนดเปนการประกันการเตบโต
                                                                                 ิ
               ทางเศรษฐกิจของชาติ และสงผลใหเกิดความมั่นคงทางดานอื่นๆ ตามมาดวย การเสริมสรางความมั่นคงทาง
               พลังงานของประเทศ ดวยการจัดหากาซธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบาน

                       ความสําเร็จของโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝงทะเลตะวันออก (ESB) ในอดีต
                                                                          ั
                                                                                               ิ
                                                                                              
                                                                                                       ึ
                          ั
                       สํานกงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวนออก (2561: 4-1) ไดวเคราะหถง
               ความสําเร็จในอดีตไวดังน  ี้
                                                                         ั
                              “โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝงทะเลตะวนออก (Eastern Seaboard: ESB)
                                                                                    
                                                             ิ
                                                          ํ
               เมื่อป พ.ศ. 2524 โดยกําหนดพื้นที่เปาหมายในการดาเนนการระยะแรกที่ประกอบดวย (1) บริเวณมาบตาพุด
               จังหวัดระยอง ซึ่งมีเปาหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมหลักที่ใชกาซธรรมชาตเปนวตถดบและอุตสาหกรรม
                                                                                        ิ
                                                                                       ุ
                                                                                    ั
                                                                                ิ
                                                     ั
                 
               ตอเนอง และ (2)  บริเวณแหลมฉบัง จังหวดชลบุรี สําหรับเปาหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมเบาและ
                    ื่
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138