Page 13 -
P. 13
ิ
ิ
ิ
ื
ิ
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
์
บทคัดย่อภาษาไทย
ที่ผ่านมาภาคเกษตรได้เผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังอยู่ใน
ฐานะยากจนเมื่อเทียบกับภาคเศรษฐกิจอื่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครัวเรือนเกษตร รัฐบาลไทยตั้งแต่อดีต
จนถึงปัจจุบันได้ใช้นโยบายเกษตรในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในแต่ละปีจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม
ยังมีงานวิจัยที่ทำการประเมินผลกระทบขั้นสูงต่อความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจของเกษตรกรตลอดจนความคุ้มค่าของ
การดำเนินนโยบายเหล่านี้ค่อนข้างน้อย และผลการศึกษาจากงานวิจัยในอดีตอาจก่อให้เกิดปัญหา “ความเอนเอียง
ในการคัดเลือก” และไม่ได้คำนึงถึงกรณีที่ครัวเรือนเกษตรมักเข้าร่วมมากกว่า 1 นโยบายในเวลาเดียวกัน
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกระทบของนโยบายสาธารณะในภาคเกษตรจำนวน 8 นโยบาย
ต่อรายได้สุทธิและภาระหนี้สินของครัวเรือนเกษตรไทยที่เข้าร่วมโครงการ โดยประยุกต์ใช้วิธีการประเมินผลกระทบ
ด้วยค่าคะแนนความน่าจะเป็นของการเข้าร่วมโครงการแบบตัวแปรหลายทางเลือก พร้อมทำการสัมภาษณ์เชิงลึก
ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสำรวจภาวะเศรษฐกิจ สังคม และแรงงานเกษตร ครอบคลุมปี
การเพาะปลูก 2560/61-2562/2563 ร่วมกับข้อมูลสภาพอากาศซึ่งได้ทำการปรับข้อมูลอากาศให้สอดคล้องกับ
ข้อมูลด้านการเกษตรที่อยู่ในรูปแบบขอบเขตการปกครองด้วยวิธี Weighted Least Square
โดยผลการศึกษา พบว่า นโยบายการบริหารจัดการน้ำช่วยเพิ่มรายได้สุทธิเกษตรทางตรงให้กับครัวเรือน
เกษตร 178,852 บาท/ครัวเรือน/ปี อย่างไรก็ตาม นโยบายแผนการผลิตข้าวครบวงจรกลับทำให้รายได้สุทธิเกษตร
ทางตรงของครัวเรือนเกษตรลดลง 43,158 บาท/ครัวเรือน/ปี นโยบาย Zoning by Agri-Map ทำให้รายได้สุทธิ
เกษตรทางตรงของครัวเรือนเกษตรลดลง 32,976 บาท/ครัวเรือน/ป และนโยบายธนาคารสินค้าเกษตรทำให้รายได ้
ี
สุทธิเกษตรทางตรงของครัวเรือนเกษตรลดลง 125,568 บาท/ครัวเรือน/ปี ส่วนนโยบายอื่นๆ ที่เหลือ ไม่พบว่าทำ
ให้รายได้สุทธิเกษตรทางตรงของครัวเรือนเกษตรเปลี่ยนแปลง เมื่อพิจารณาผลกระทบของนโยบายต่อภาระหนี้ของ
ครัวเรือนเกษตรผ่านสัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินรวมของครัวเรือนเกษตร ผลการศึกษาพบว่า มีเพียงนโยบาย
Zoning by Agri-Map ที่สามารถช่วยลดสัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินรวมของครัวเรือนเกษตรเท่ากับ -0.38 ขณะที่
นโยบายธนาคารสินค้าเกษตรกลับทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินรวมของครัวเรือนเกษตรเพิ่มขึ้น 0.18
เมื่อนำรายได้สุทธิเกษตรทางตรงคูณกับจำนวนครัวเรือนเกษตรที่ได้รับประโยชน์ พบว่า นโยบายการ
บริหารจัดการน้ำเป็นเพียงนโยบายเดียวที่สร้างผลประโยชน์เชิงบวกจากทั้ง 8 นโยบายที่ได้ทำการศึกษา โดย
สามารถสร้างมูลค่าผลประโยชน์เท่ากับ 378,221 ล้านบาท/ปี ซึ่งนับว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบประมาณแผ่นดินที่ใช้
จ่ายในแต่ละปีเฉลี่ย 60,742 ล้านบาท/ปี ขณะที่พบว่า 7 นโยบายที่เหลือและยังไม่คุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณ
แผ่นดิน โดยทั้ง 8 นโยบายที่ศึกษาสร้างมูลค่าผลประโยชน์เท่ากับ 180,686.25 ล้านบาท/ปี และเมื่อนำมาหักลบ
กับงบประมาณที่ใช้จ่ายตลอด 3 ปี ประมาณเฉลี่ย 73,779 ล้านบาท/ปี ทำให้สรุปได้ว่า ทั้ง 8 นโยบายโดยภาพรวม
สร้างมูลค่าผลประโยชน์สุทธิเชิงบวกรวม +106,908 ล้านบาท/ปี สะท้อนให้เห็นว่าโดยภาพรวมการใช้จ่าย
งบประมาณมีความคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ควรมีการพิจารณาปรับปรุง 7 นโยบายที่เหลือ โดยงานศึกษาครั้งนี้ได้
นำเสนอข้อเสนอแนะในหลายประการเพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายต่างๆ อันจะนำไปสู่การยกระดับสถานะทาง
เศรษฐกิจให้กับเกษตรกรไทยและเกิดความคุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินในอนาคต
คำสำคัญ :
การประเมินผลกระทบ ภาคเกษตรไทย นโยบายเกษตร ศักยภาพในการทำกำไร หนี้สินครัวเรือน
xi