Page 118 -
P. 118
ิ
ื
ั
ิ
์
ุ
ิ
ิ
โครงการหนังสออเล็กทรอนกส เฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
หลักฐานล้านนาในเอกสารโบราณจีน
6. ขุนนางฝ่ายใน(内官)มีหลายความหมาย โดยทั่วไปคือขันที แต่ไม่จ าเป็นต้องเป็น
ขันทีเท่านั้น ค านี้อาจใช้เรียกขุนนางคนสนิทของฮ่องเต้ สตรีที่รับราชการในวัง ขันที ขุนนางที่
ขึ้นกับส านักพระราชวัง หรือใช้หมายถึงขุนนางในเมืองหลวง เมื่อเทียบกับขุนนางท้องที่ ในที่นี้
น่าจะหมายถึงขันที แต่ผู้แปลเลือกรักษาส านวนภาษาเดิมไว้
7. ลู่ชวน(麓川)เป็นค าเรียกเหมิงเหม่า(勐卯)หรือเมืองมาวซึ่งเป็นอาณาจักร
ของชาวไต ที่ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบยูนนาน-กุ้ยโจวและตอนกลางตอนเหนือ
ของพม่า เนื่องจากในสมัยราชวงศ์หยวนเคยตั้งบริเวณนี้เป็นลู่ชวนลู่ หรือเขตการปกครองลู่
ชวน ต่อมาชาวไตสร้างอาณาจักรเหมิงเหม่าที่บริเวณนี้ใน ค.ศ.1312 / พ.ศ.1855 และขยาย
อ านาจไปปกครองเมืองใกล้เคียง บางครั้งจีนก็เรียกเหมิงเหม่าว่าลู่ชวนกั๋ว (อาณาจักรลู่ชวน)
เหมิงเหม่ารบกับราชวงศ์หยวนหลายครั้ง สามารถเอาชนะกองทัพราชวงศ์หยวนได้ แต่ต่อมา
ในสมัยราชวงศ์หมิงก็รบติดพันหลายปีจนต้องลดจากอาณาจักรเป็นเขตปกครอง เรียกว่า ลู่
ชวนผิงเหมี่ยนจวินหมินเซวียนเว่ยซือ(麓川平缅军民宣慰司)หรือเขตปกครองทหาร
และราษฎรลู่ชวนและผิงเหมี่ยน พื้นที่ที่ดูแลมีสองส่วนคือผิงเหมี่ยนลู่และลู่ชวนลู่ของสมัย
ราชวงศ์หยวน ค.ศ.1441 / พ.ศ.1984 เหมิงเหม่ารบกับกองทัพราชวงศ์หมิงหลายครั้ง ในที่สุด
ก็เสียเมืองหลวงและต้องย้ายไปอยู่ที่เมิ่งหยั่งซึ่งอยู่ทางเหนือของพม่า ยกเลิกเขตปกครอง
ทหารและราษฎรลู่ชวนและผิงเหมี่ยน ดูแผนที่ประกอบ
8. เมิ่งมี่(孟密)ชื่อเขตการปกครอง เดิมขึ้นกับมู่ปัง ในพงศาวดารราชวงศ์หมิงบันทึก
ไว้ว่ามีอัญมณีมาก ต่อมาเป็นกบฏต่อมู่ปัง ในปีที่ 20 รัชศกเฉิงฮว่า (ค.ศ.1484 / พ.ศ.2027)
แยกเมิ่งมี่ซึ่งอยู่ภาคตะวันตกของมู่ปังออกมาตั้งเป็นเมิ่งมี่อานฝู่ซือ ปีที่ 12 แห่งรัชศกวั่นลี่
(ค.ศ.1584 / พ.ศ.2127) ยกฐานะเป็นเมิ่งมี่เซวียนฝู่ซือ (เขตปกครองระดับ 2 ขึ้นกับมณฑล)
ปีที่ 18 แห่งรัชศกวั่นลี่ (ค.ศ.1590 / พ.ศ.2133) ขึ้นกับพม่า เคยกลับมาขึ้นกับจีนอีกครั้งใน
ต้นราชวงศ์ชิงแล้วกลับไปขึ้นกับพม่าอีก ดูแผนที่ประกอบ
91