Page 8 -
P. 8

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                          iv




               บาท และมีความต้องการการใช้กัญชาประมาณ 2,493,411.53 ถึง 10,804,394.16กรัม ในขณะที่มูลค่า

               ความต้องการกัญชาเพื่อยาแผนไทยทั้งหมดคือ 10,401,388.72 บาท และคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 30 ท า

               ให้ในปี 2568 มูลค่าตลาดยากัญชาจะเพิ่มขึ้นเป็น 38,619,628.22 บาท

                       ส าหรับโซ่อุปทานกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมายของไทย ประกอบด้วย 1) ต้นน้ า

               ได้แก่ เมล็ดพันธุ์และการเพาะปลูก 2) กลางน้ า ได้แก่ การสกัดและการแปรรูป 3) การกระจายยากัญชาซึ่ง

               มีโรงพยาบาลและคลินิกเป็นผู้จ าหน่าย โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของทุกส่วนในโซ่อุปทานต้องมีใบอนุญาตใน

               การด าเนินการ ปัญหาในส่วนของต้นน้ า ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ไทยยังไม่มีความหลากหลายและยังไม่ได้ขึ้น

               ทะเบียน รวมถึงมีองค์ความรู้ที่จ ากัดในด้านการเพาะปลูก ส่วนปัญหาในระดับกลางน้ าคือมีวัตถุดิบกัญชาที่

               ใช้ในสกัดและแปรรูปไม่เพียงพอและคุณภาพไม่สม่ าเสมอ การตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบมีค่าใช้จ่ายที่

               สูงและใช้เวลานาน ในส่วนของปัญหาในระดับปลายน้ าคือแพทย์ยังไม่มีความมั่นใจในประสิทธิผลและ

               ความปลอดภัยของยากัญชา และเผชิญกับขั้นตอนหลายขั้นตอนในการสั่งจ่ายยากัญชาผ่านรูปแบบพิเศษ

               ในการเข้าถึงยา (SAS) และผู้ป่วยบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงยากัญชาที่ถูกกฎหมายได้ท าให้ต้องใช้ยากัญชา


               ใต้ดินและมีการใช้ที่ผิดวิธี ส าหรับปัญหาในภาพรวมของโซ่อุปทาน ได้แก่ ในเรื่องของราคากัญชาที่ยังไม่มี
               ราคาตลาดและไม่มีการจัดชั้นมาตรฐานของผลผลิตกัญชาที่ชัดเจน ส าหรับความเสี่ยงเมื่ออนุญาตให้มีการ


               ใช้กัญชาทางการแพทย์ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ผู้ป่วยอาจติดกัญชา มีการใช้ที่ผิดวิธี หรือใช้เกิดขนาด อาจมี
               ผู้น าไปใช้ในทางที่ผิดท าให้เกิดผู้เสพหน้าใหม่โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ผู้ป่วยที่เข้าไม่ถึงกัญชาที่ถูก


               กฎหมายอาจใช้กัญชาที่ผิดกฎหมาย และอาจท าให้เกิดอุบัติเหตุจากการใช้เครื่องจักรและขับขี่ยานยนต์ได้
               ส าหรับการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ พบว่า การส่งเสริมให้ปลูกกัญชาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน


               จะท าให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในปี 2563 ประมาณ 63-1,604 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี
               2568 จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่า 315.19-6,038.94 ล้านบาท ในขณะที่ผลกระทบจากการปลูก


               กัญชาเพื่อแพทย์แผนไทยพบว่าส่งผลกระทบเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามการประเมินผลกระทบ
               ทางเศรษฐกิจนี้เป็นการประเมินเฉพาะผลกระทบทางการเงินเท่านั้น และจากการประมาณการพื้นที่ปลูก


               กัญชาทางการแพทย์พบว่าต้องมีพื้นที่ปลูกส าหรับกัญชาสายพันธุ์ CBD เด่นประมาณ 1,588–7,361

               ตารางเมตรในปี 2563 และจะเพิ่มเป็น 5,979.42-27,708.2 ตารางเมตร ในปี 2568 เท่านั้น ในขณะที่

               พื้นที่ส าหรับปลูกกัญชาสายพันธุ์ไทยในปี 2563 ต้องมีพื้นที่ส าหรับปลูกประมาณ 6,462.46-10,282.17

               ตารางเมตร และเพิ่มเป็น 15,597.8-29,974.36 ตารางเมตร ในปี 2568 ส าหรับแนวทางในการส่งเสริม

               การอนุญาตให้เพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ในแต่ละระดับของโซ่อุปทานมีดังนี้ 1) ส าหรับภาพรวมของ

               โซ่อุปทานนั้นต้องการมีการวางแผนโซ่อุปทานร่วมกันตั้งแต่ต้นน้ าถึงปลายน้ า เพื่อให้สามารถผลิตยากัญชา
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13