Page 28 -
P. 28
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
4
หรือ THC ในปริมาณไม่ถึงร้อยละ 1 ส่วนกัญชามีร้อยละ 3 สารตัวนี้เป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
ถือเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง จึงมีการอนุญาตให้ทดลองปลูกกัญชงในพื้นที่ 5 จังหวัดของภาคเหนือ เพื่อ
รองรับการปลูกเชิงอุตสาหกรรม ในขณะที่กฎหมายการปลูก ครอบครอง และจ าหน่ายกัญชาอย่างถูก
กฎหมายในปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้ปลูกกัญชาได้อย่างเสรี แต่อนุญาตให้ครอบครองเพื่อมา
ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยทางการแพทย์เท่านั้น ผู้ขอรับอนุญาตปลูกกัญชาจะได้รับ
การพิจารณาจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ โดยแนวทางการพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชา
พ.ศ.2562 จะพิจารณาใน 6 ประเด็น 1) สถานที่เพาะปลูกต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ 2)
ปริมาณการปลูกต้องสอดคล้องกับ แผนการผลิต จ าหน่าย และแผนการใช้ประโยชน์ 3) ประวัติการถูก
ด าเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษของผู้ขอรับอนุญาต 4) มาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการ
รั่วไหลของกัญขา 5) รายละเอียดการด าเนินการที่ชัดเจน และ 6) ข้อมูลทั่วไปของผู้ขอรับอนุญาต
ดังนั้นงานวิจัยนี้ต้องการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการเพาะปลูกกัญชาอย่างถูกกฎหมายใน
ประเทศไทยเพื่อให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นอีกทางเลือกในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร โดย
พิจารณาถึงวิเคราะห์ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ผลการวิจัยนี้จะน าไปประกอบการพิจารณา
ร่วมกับ ผลประโยชน์และโทษด้านสังคม การเมือง สุขภาพ ให้เป็นข้อมูลแก่รัฐบาลในการพิจารณา
กฎหมายอนุญาตในการเพาะปลูกกัญชาต่อไป
1.2 วัตถุประสงค์
1) เพื่อถอดบทเรียนจากต่างประเทศ ในการอนุญาตให้เพาะปลูกกัญชาและการใช้ประโยชน์จาก
กัญชา
2) เพื่อศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากการอนุญาตให้เพาะปลูก
กัญชาเพื่อเป็นพืชเศรษฐกิจของไทย
3) เพื่อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมการอนุญาตให้เพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์เพื่อเป็นพืช
เศรษฐกิจของไทย
1.3 ระเบียบวิธีวิจัย
1.3.1 ขอบเขตกำรศึกษำ
1) ประเทศตัวอย่างที่ใช้ในการถอดบทเรียนพิจารณาจากประเทศที่อนุญาตให้มีการปลูกกัญชา
แบบถูกกฎหมายเท่านั้น โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้น าเสนอกรณีศึกษานโยบายกัญชาของประเทศแคนาดา