Page 29 -
P. 29

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



                                                          บทคัดย่อ

                       การศึกษาการปนเปื้อนของแคดเมียมในพื้นที่ปลูกมังคุด ได้ดำเนินการในปี 2560-2562 โดยสำรวจเก็บตัวอย่างดิน
               และมังคุด ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร มาวิเคราะห์ปริมาณโลหะหนักในดิน และผลผลิต
               มังคุดสด ตลอดจนสมบัติพื้นฐานต่างๆ ของดิน  พบว่า ปริมาณแคดเมียมในดินปลูกมังคุดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
               สุราษฎร์ธานี และชุมพร พบในช่วง nd-0.6, 0.3-1.8 และ 0.02-1.07 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ ซึ่งปริมาณ
               แคดเมียมที่ตรวจพบในดินดังกล่าวมีปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่อนุญาตให้พึงมีในดินทำการเกษตรของกลุ่มสมาพันธ์
               ยุโรป (แคดเมียม 1-3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ส่วนความเข้มข้นของแคดเมียมในตัวอย่างมังคุดที่เก็บจากจังหวัด
               นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร พบในช่วง 0.007-0.09, 0.03-0.06 และ 0.006-0.06 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
               ความเข้มข้นของแคดเมียมในผลผลิตมังคุดในบางพื้นที่ของทั้ง 3 จังหวัดเกินมาตรฐานที่อนุญาตให้มีแคดเมียมปนเปื้อนใน
               ผลผลิตมังคุดสดได้ไม่เกิน 0.05 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ดังนั้น พื้นที่ปลูกมังคุดที่ตรวจพบการปนเปื้อนของแคดเมียมใน
               ผลผลิตเกินเกณฑ์มาตรฐาน ควรมีการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันและ
               ลดการปนเปื้อนของแคดเมียมในผลผลิตมังคุด

               คำหลัก :  โลหะหนัก, แคดเมียม, มังคุด, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, ชุมพร
                                                           คำนำ
                       มาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาหารเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงบ่อยครั้ง ทั้งในแง่สุขอนามัย

               โดยรวมของผู้บริโภค และในบริบทของการเป็นข้อต่อรองในระบบเปิดเสรีการค้าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และประเทศไทยได้มี
               การเคลื่อนไหวและปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อประเด็นนี้มาโดยตลอด ซึ่งการใส่ใจอย่างจริงจังในเรื่องความปลอดภัยของ
               อาหารที่บริโภคภายในประเทศ นับเป็นปัจจัยสำคัญเบื้องต้น ที่จะส่งผลต่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนผู้เป็นพื้นฐานสำคัญ
               ต่อการพัฒนาของประเทศอย่างแท้จริง ดังนั้นดินที่ใช้ทำการเกษตร และใช้ปลูกพืชเพื่อบริโภคเป็นอาหาร ควรสะอาดและ
               ปลอดจากการปนเปื้อนของสารพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุพิษในกลุ่มของโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ปรอท สารหนู และ
               ตะกั่ว อย่างไรก็ตาม การใช้ที่ดินเพื่อเพาะปลูกมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน ทำให้เกษตรกรจำเป็นต้องใช้วัสดุ
               ปรับปรุงบำรุงดิน รวมทั้งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และ ยาปราบศัตรูพืช เพื่อให้ได้ผลผลิตเพียงพอ มีคุณภาพตรงกับความ
               ต้องการของตลาด ผลจากการใช้ที่ดินในรูปแบบดังกล่าว สารพิษจำพวกโลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับปัจจัยการผลิต
               จะทยอยสะสมรวมเข้ากับเนื้อดิน และยากต่อการย่อยสลาย หากสะสมจนเกินความสามารถของดินจะดูดซับไว้ได้ โลหะ
               หนักบางส่วนจะละลายปนออกมากับธาตุอาหารอื่นๆ ที่พืชดูดใช้ การสะสมของโลหะหนักดังกล่าวจึงมีผลกระทบโดยตรง
               ต่อพืช และผู้บริโภค สาเหตุหนึ่งของการปนเปื้อนโลหะหนักในพื้นที่การเกษตร คือ เกิดจากกระบวนการแยกและถลุงแร่
               โลหะ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าพื้นที่การเกษตรในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนของโลหะหนักจากกิจกรรม
               ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น การปนเปื้อนของโลหะหนักไม่ว่าจะโดยธรรมชาติหรือจากการกระทำของมนุษย์ล้วนมีผลกระทบต่อ
               สิ่งแวดล้อมและมนุษย์ในระยะยาว โดยมนุษย์สามารถรับพิษโลหะหนักได้โดยตรงและผ่านทางการสะสมของโลหะหนักใน

               ห่วงโซ่อาหาร (Mchale and Mchale, 1994) ทำให้เกิดโรคที่เกิดจากการสะสมของโลหะหนักในร่างกายมนุษย์ เช่น
               โรคมินามาตะ (mina mata) จากปรอท และโรคอิไต-อิไต (itai-itai) จากแคดเมียม (Laws, 1993) จากรายงานในอเมริกา
               พบว่าความเป็นพิษของตะกั่วจะส่งผลต่อการพัฒนาการของสมองเด็ก ทำให้เด็กสมองพิการ ระบบประสาทล้มเหลว
               (Abrahams, 2002; Rieuwert et al., 2000) และคนที่บริโภคผักที่ปนเปื้อนแคดเมียมและตะกั่ว ในประเทศตุรกี มีอายุ
               สั้นลงกว่าคนปกติ 9-10 ปี (Türkdoğan et al., 2002) นอกจากนี้ในต่างประเทศยังรายงานว่า ผักที่รับประทาน ราก หัว
               และใบ เป็นพืชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนแคดเมียม หากปลูกในพื้นที่ปนเปื้อน ซึ่งสอดคล้องกับการสำรวจเบื้องต้น
               เกี่ยวกับการปนเปื้อนของธาตุโลหะหนักและธาตุกึ่งโลหะในประเทศไทย ที่พบว่าแคดเมียม ทองแดง และสังกะสี เป็นธาตุ
               ที่สะสมอยู่ในดินและผลผลิตของพืชค่อนข้างสูงจนอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของดินและคุณภาพของผลผลิตพืชที่เป็น
               อาหาร (พิชิตและสุรสิทธิ์, 2542) สำหรับในพื้นที่สวนผลไม้ ได้มีการรายงานการตรวจพบการปนเปื้อนของแคดเมียมในดิน
               ในเขตอำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ในช่วง 5.4-6.7 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และในเขตอำเภอนบพิตำ จังหวัด
               นครศรีธรรมราช ยังพบการปนเปื้อนของแคดเมียมในดินในบางพื้นที่ เกินค่ามาตรฐานคุณภาพดินเพื่อการเกษตร

                                                           21
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34