Page 66 -
P. 66
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
64 Thai J. For. 33 (1) : 57-65 (2014)
Table 2 Factors affecting people participation in forest resource conservation at Pa Phu
Ra-ngum national reserved forest, Waeng Yai and Chonnabot districts, Khon Kaen
province.
Independent variables t F P-value
1. Age 1.021 ns - 0.308
2. Educational level - 3.145 * 0.025
3. Number of household members 0.279 ns - 0.780
4. Number of household labour 2.581 * - 0.010
5. Settlement period -0.194 ns - 0.847
6. Main occupation - 6.242 * 0.000
7. Minor occupation - 1.371 ns 0.252
8. Net household income -0.092 ns - 0.928
9. Size of land holding -2.862 * - 0.005
10. Social group member being -0.414 ns - 0.679
11. Training experience -1.413 ns - 0.159
12. Received of information about forest resource conservation 0.273 ns - 0.785
13. Acquainted with forest officer 0.303 ns - 0.763
14. Knowledge about forest resource conservation 9.349 * - 0.000
Notes: * significant at 0.05 level.
ns not significant at 0.05 level.
สรุป มีระดับความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้อยู่
จากการศึกษาราษฎรกลุ่มตัวอย่างพบว่า ราษฎร ในระดับสูง คิดเป็นคิดเป็นร้อยละ 56.70 และระดับการ
ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 61.51 มีอายุเฉลี่ย 52.86 ปี มีส่วนร่วมของราษฎรในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ร้อยละ 77.66 มีจ�านวน อยู่ในระดับปานกลาง ภาพรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.39
สมาชิกในครัวเรือน เฉลี่ย 4.41 คน มีจ�านวนแรงงานใน ผลทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยที่ไม่มีผล
ครัวเรือน เฉลี่ย 3.47 คน ระยะเวลาการตั้งถิ่นฐานเฉลี่ย ต่อการมีส่วนร่วมของราษฎรในการอนุรักษ์ทรัพยากร
42.17 ปี ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก ป่าไม้ ได้แก่ อายุ จ�านวนสมาชิกในครัวเรือน ระยะเวลา
ร้อยละ 57.73 และเป็นอาชีพรอง คิดเป็นร้อยละ 46.74 ในการตั้งถิ่นฐาน อาชีพรองรายได้สุทธิของครัวเรือน
มีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่า 110,257.22 บาทต่อปี รายจ่าย สมาชิกกลุ่มทางสังคม ประสบการณ์ในการอบรม การ
เฉลี่ยน้อยกว่า 62,200 ต่อปี มีขนาดพื้นที่ถือครองของ รับรู้ข่าวสาร และปฏิสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ส�าหรับ
ตนเองเฉลี่ย 16.57 ไร่ มีขนาดพื้นที่ถือครองที่เช่าผู้อื่น ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของราษฎร ได้แก่ ระดับ
เฉลี่ย 11.50 ไร่ ราษฎรส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกลุ่มทาง การศึกษา จ�านวนแรงงานในครัวเรือน อาชีพหลัก ขนาด
สังคม คิดเป็นร้อยละ 81.79 เคยได้รับการฝึกอบรม คิด การถือครองที่ดิน และระดับความรู้ในการอนุรักษ์
เป็นร้อยละ 53.95 ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรป่าไม้
ทรัพยากรป่าไม้ คิดเป็นร้อยละ 81.10 มีความคุ้นเคย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรประสานความร่วมมือ
ระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้กับราษฎร คิดเป็นร้อยละ 79.38 ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ควรจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์