Page 98 -
P. 98
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
96 Thai J. For. 31 (3) : 92-101 (2013)
ผลและวิจารณ์ การหักเด็ดกิ่งไม้ ใบไม้ ปริมาณขยะ ร่องรอยการเดิน
ออกนอกเส้นทาง ความขุ่นของน�้า และของแข็งแขวน
ผลการวิเคราะห์ผลกระทบทางนันทนาการ ลอยในน�้า
ด้านชีวกายภาพบางประการ การเปรียบเทียบความแตกต่างของปริมาณ
จากการศึกษา พบว่า เกิดร่องรอยการกร่อน ผลกระทบทางนันทนาการด้านชีวกายภาพบางประการ
ของดิน 0.054 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณรากไม้โผล่พ้นดิน ในพื้นที่ที่มีการใช้ประโยชน์ต่างกัน 3 ลักษณะ ได้แก่
0.121 เปอร์เซ็นต์ต่อพื้นที่ทางเดิน 1 ตารางเมตร ส�าหรับ พื้นที่ธรรมชาติ ริมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และ
สังคมพืชป่าดิบเขา ปริมาณรากไม้โผล่พ้นดิน 0.314 บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ โดยตัวชี้วัดผลกระทบ
เปอร์เซ็นต์ต่อพื้นที่ทางเดิน 1 ตารางเมตร ส�าหรับสังคม ทางนันทนาการที่น�ามาใช้ในการวิเคราะห์ทางสถิติ
พืชป่าดิบแล้ง ร่องรอยความเสียหายของล�าต้นไม้ใหญ่ ครั้งนี้มีจ�านวน 2 ตัวได้แก่ ปริมาณพืชคลุมดินและ
0.818 รอยต่อความยาวของเส้นทาง 30 เมตร ร่องรอย ปริมาณรากไม้โผล่พ้นดิน ซึ่งได้ท�าการเก็บข้อมูลตัว
การหักเด็ดกิ่งไม้ ใบไม้ 0.102 รอยต่อความยาวของ ชี้วัดดังกล่าวจากสังคมพืชตัวแทนของอุทยานแห่ง
เส้นทาง 30 เมตร ปริมาณพืชคลุมดิน 8.165 เปอร์เซ็นต์ ชาติแก่งกระจาน คือ ป่าดิบเขาและป่าดิบแล้ง ผลการ
ต่อพื้นที่ทางเดิน 1 ตารางเมตร ส�าหรับสังคมพืชป่า ศึกษาพบว่า ในสังคมพืชป่าดิบเขา ค่าเฉลี่ยของปริมาณ
ดิบเขา ปริมาณพืชคลุมดิน 4.761 เปอร์เซ็นต์ต่อพื้นที่ พืชคลุมดินในพื้นที่ธรรมชาติมีค่าเท่ากับ 14.908 ต่อ
ทางเดิน 1 ตารางเมตร ส�าหรับสังคมพืชป่าดิบแล้ง ตารางเมตร ในพื้นที่ริมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมี
ปริมาณขยะ 0.609 ชิ้นต่อความยาวของเส้นทาง 30 เมตร ค่าเท่ากับ 9.585 ต่อตารางเมตร และบนเส้นทางเดิน
ร่องรอยการเดินออกนอกเส้นทาง 0.210 เส้นทางต่อ ศึกษาธรรมชาติมีค่าเท่ากับ 0 ต่อตารางเมตร เมื่อทดสอบ
ความยาวของเส้นทาง 30 เมตร ความขุ่นของน�้า 6.815 ความแตกต่าง ด้วยการทดสอบค่า F-test พบว่า ปริมาณ
NTU ของแข็งแขวนลอยในน�้า 4.610 มิลลิกรัมต่อลิตร พืชคลุมดินแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (F =
เมื่อท�าการแบ่งเกณฑ์ระดับของผลกระทบทางนันทนาการ 16.310; P - value = 0.000) ส่วนค่าเฉลี่ยของปริมาณ
พบว่า ตัวชี้วัดที่มีผลกระทบในระดับมากเพียงตัวชี้วัดเดียว รากไม้โผล่พ้นดิน ในพื้นที่ธรรมชาติมีค่าเท่ากับ 0
คือ ปริมาณพืชคลุมดินในสังคมพืชป่าดิบแล้ง ตัวชี้วัด ต่อตารางเมตร ในพื้นที่ริมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
ที่มีผลกระทบในระดับปานกลาง ได้แก่ ร่องรอยการ มีค่าเท่ากับ 0.362 ต่อตารางเมตร และบนเส้นทางเดิน
กร่อนของดิน ปริมาณรากไม้โผล่พ้นดินในสังคมพืช ศึกษาธรรมชาติมีค่าเท่ากับ 0 ต่อตารางเมตร เมื่อน�า
ป่าดิบเขาและป่าดิบแล้ง ปริมาณพืชคลุมดินในสังคม มาทดสอบค่าความแตกต่าง ด้วยการทดสอบค่า F - test
พืชป่าดิบเขา และตัวชี้วัดที่มีผลกระทบในระดับน้อย พบว่า ปริมาณพืชคลุมดินแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญ
ได้แก่ ร่องรอยความเสียหายของล�าต้นไม้ใหญ่ ร่องรอย ทางสถิติ (F = 3.153; P - value = 0.048) (Table 1)
Table 1 Comparison of vegetation cover and root exposure in hill evergreen forest.