Page 17 -
P. 17

โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


                                                         วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์   ปีที่ 41 ฉบับที่ 2   11



             โอกาสทางการเมือง”  ซึ่งก็คือ  บริบทแวดล้อมทางสังคมการเมืองที่เอื้อหรือเป็นอุปสรรคต่อการรวมกลุ่ม
             ก้อน เช่น ระบอบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย สังคมซึ่งมีพื้นที่สาธารณะที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถรวม
             ตัวเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างกว้างขวาง ย่อมเอื้อต่อการรวมกลุ่มก้อนของผู้คนและเอื้อต่อการสร้างพลังต่อรอง
             ได้มากกว่า (ดู ประภาส ปิ่นตบแต่ง, 2552: บทที่ 4) ปัจจัยภายนอกองค์กรที่มีผลต่อการสร้างอิทธิพล
             รวมถึงกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ  หรือฝ่ายต่อต้านการเคลื่อนไหวผลักดัน  เพราะการเคลื่อนไหวเพื่อบรรลุ

             จุดหมายของกลุ่มมักจะทำให้เกิดการเสียประโยชน์ของกลุ่มอื่นๆ เสมอ
                      ข้อสังเกตคือ  การศึกษากลุ่มผลประโยชน์ที่ปรากฏในรูปแบบวิทยานิพนธ์  ภาคนิพนธ์  รวมทั้ง
             งานวิจัยในสังคมไทยยังไม่มีงานที่พยายามขยายการวิเคราะห์เงื่อนไข  ปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างอิทธิพล

             รวมทั้งในระดับการหาความสัมพันธ์ในเชิงเหตุ-ผลและการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ซึ่งน่าจะมีงานบุกเบิกใหม่ๆ
             ขยายมาศึกษาในมิติเหล่านี้บ้าง
                      2.4 กรอบวิเคราะห์การเมืองแบบกลุ่มผลประโยชน์ VS กรอบวิเคราะห์แบบขบวนการทางสังคม
                      ความหมายของกลุ่มผลประโยชน์  มีนักวิชาการได้ให้นิยามไว้อย่างหลากหลาย  ซึ่งจะไม่ขอนำ
             มากล่าวถึงในที่นี้ (โปรดดูนิยามโดย เดวิท ทรูแมน อ้างใน ไมตรี อินทสุต,2523) มนตรี เจนวิทย์การ,

             2517 ; จุมพล หนิมพานิช, 2545) โดยสรุปอาจจะกล่าวได้ว่า กลุ่มผลประโยชน์ คือ การรวมตัวของ
             ปัจเจกบุคคลเพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่ม แต่ละคนมีพื้นฐานร่วมกัน เช่น พื้นฐานอาชีพ ฯลฯ มีเป้าหมาย
             และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกพวกพ้อง  ในงานเขียนเหล่านี้มักจะ

             แยกความหมายกลุ่มผลักดัน  (pressure  groups)  ออกจากกลุ่มผลประโยชน์โดยชี้ให้เห็นว่า  กลุ่ม
             ผลักดันมุ่งที่จะมีอิทธิพลเหนือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือรัฐบาลและมีอิทธิพลต่อนโยบายของรัฐบาล (และกลุ่ม
             ผลักดันหรือกลุ่มอิทธิพลนี้มิได้มีเป้าหมายเหมือนกันกับพรรคการเมืองที่ว่าพรรคการเมืองต้องการ
             ชัยชนะเพื่อจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศ)
                      กลุ่มผลักดันกับกลุ่มผลประโยชน์จึงเป็นเรื่องเดียวกัน กล่าวคือ เราเรียกกลุ่มผลักดันเมื่อกลุ่ม

             ผลประโยชน์มีกิจกรรมที่ดำเนินการสร้างอิทธิพลหรือเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับนโยบายของรัฐหรือระบบ
             การเมืองส่วนใดส่วนหนึ่งเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ของกลุ่ม  การแบ่งออกเป็นกลุ่มผลประโยชน์และกลุ่ม
             ผลักดันก็เพื่อให้เห็นบทบาทของกลุ่มในสังคมการเมือง  แต่อย่างไรก็ดี  ในงานเขียนหลายชิ้นไม่ได้แยก

             ออกเป็น 2 ประเภทดังกล่าว กล่าวคือ ได้ใช้คำเดียวเรียก เช่น งานของ Nownesเรื่องกลุ่มผลประโยชน์
             ในการเมืองอเมริกัน (Nownes, 2013) ไม่ได้กล่าวถึงกลุ่มผลักดัน (pressure groups) เลย และยังได้
             แยกระหว่างกลุ่มทั่วไปกับกลุ่มผลประโยชน์ว่า  กลุ่มทั่วไปไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมือง
             (Nownes, 2013: 5) ส่วนงานของ Wyn Grant เรื่อง “กลุ่มผลักดัน การเมือง และประชาธิปไตยใน
             อังกฤษ” ก็ใช้คำ "กลุ่มผลักดัน" (pressure group)(Grant,1989) โดยไม่ได้กล่าวถึงหรือใช้คำว่า"กลุ่ม

             ผลประโยชน์"เลย  ผู้เขียนเห็นว่า  อาจจะเป็นเพราะในการเมืองปัจจุบันคงเป็นไปได้ยากที่กลุ่มผล
             ประโยชน์จะไม่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับระบบการเมืองในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง จึงทำให้การแยกพิจารณา
             กลุ่มทั้งสองประเภทจึงเป็นไปได้ยากและไม่สู้จะมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจการเมืองแบบกลุ่มมากนัก

                      ส่วนการพิจารณาความแตกต่างของกลุ่มผลประโยชน์หรือกลุ่มผลักดันกับขบวนการทางสังคม
             นั้น  มิติหนึ่งเสนอให้มองว่ากระทำการร่วมหมู่ทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างในด้านลักษณะหน้าตา
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22