Page 177 -
P. 177

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






                      (1) การล�าเลียงน�้า  ศักย์น�้านอกรากสูงกว่าภายในมาก  จึงมีเกรเดียนต์ศักย์น�้า  (water
            potential gradient) สูง เนื่องจากการคาย-ระเหยน�้า (evapo-transpiration) ประกอบกับมีเอ็กโซเดอร์มิส

            เป็นสิ่งขวางกั้นการเคลื่อนที่ของน�้าด้านข้างในอะโพพลาสต์ น�้าจึงเคลื่อนที่จากรากสู่ใบได้ดี
                      (2) การล�าเลียงอากาศ ภายในรากมีสภาพคล้ายท่อกันอากาศรั่ว (gas tight pipe) เพื่อน�า
            ออกซิเจนลงมาสู่ราก และส่ง CO  และแก๊สอื่นกลับขึ้นไปยังส่วนเหนือดิน
                                       2
                      ถ้าน�้าท่วมต้นข้าวส่วนมากหรือท่วมจนมิด ต้นข้าวที่ทนทานจะอยู่ได้ถ้าน�้าใส แสงผ่านได้
            มีออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ละลายในน�้ามากพอ แต่ต้นข้าวจะหยุดการเติบโตชั่วคราว เพื่อสงวน

            คาร์โบไฮเดรตไว้ประทังชีวิต  และปรับระบบการใช้พลังงานในเซลล์  โดยเพิ่มกิจกรรมด้าน  alcoholic
            fermentation  ให้มากขึ้นเพื่อใช้กระบวนการไกลโคไลซิส  (glycolysis)  ส�าหรับการสร้าง  ATP  และ
            NADH   ต่อไป  แต่การปรับตัวดังกล่าวไม่อาจช่วยให้รากอยู่ได้นานนัก  เพราะไม่มีการล�าเลียงออกซิเจน
                  2
            จากส่วนเหนือดิน ในที่สุดรากจึงขาดออกซิเจนโดยสิ้นเชิง
                    2) เป็นทางเคลื่อนที่ของแก๊ส
                      การเคลื่อนที่ของแก๊สในพืชทางแอเรงคิมาเป็นดังนี้

                      (1) เคลื่อนที่ด้วยการแพร่ (diffusion) เนื่องจากการใช้ O  ในการหายใจของราก ท�าให้ O 2
                                                                       2
            ลดลง O  จากส่วนเหนือดินจึงแพร่ลงมาสู่ราก ส่วน CO  จากการหายใจมีการละลายน�้าได้มาก (120 เท่า
                                                          2
                   2
                        o
            ของ O  ที่ 25  เซลเซียส pH 7)
                  2
                      (2) แก๊สเคลื่อนที่โดยการพา (convection) ถ้ามีเกรเดียนต์ความดัน
                      การรั่วของออกซิเจนจากราก  เกิดที่ปลายรากมากกว่ารากส่วนที่แก่  ส�าหรับรากฝอยเดิมที่

            แตกรากแขนง (ขนาดเล็กกว่า) มาก มีการรั่วมาก เนื่องจากสาเหตุ 3 ประการ คือ (1) มีพื้นที่ผิว/ปริมาตร
            รากสูงขึ้น (2) รากที่แตกใหม่มีชั้นขวางกั้นการรั่วของ O  น้อยกว่า และ (3) การแตกรากใหม่ ท�าให้มี
                                                           2
            รอยร้าวที่เนื้อเยื่อชั้นผิวของรากเดิม เป็นช่องทางการรั่วของ O
                                                               2
                     การที่ออกซิเจนรั่วออกจากผิวรากไปสู่ดินได้นี้เอง รากข้าวจึงมีอ�านาจการออกซิไดส์ (oxidizing
            power) และท�าให้ไรโซสะเฟียร์มีออกซิเจนและจุสินทรีย์ใช้ออกซิเจนอาศัยอยู่ได้ ดังนั้นในไรโซสะเฟียร์จึง

            มีกิจกรรมไนทริฟิเคชัน และการออกซิไดส์เฟอรัสให้เป็นเฟอริกได้
                    3) การเคลื่อนย้ายธาตุอาหารภายในราก
                      การเคลื่อนย้ายธาตุอาหารในแนวรัศมีของรากพืชในดินน�้าขัง มีเส้นทางการผ่านของไอออน

            2 เส้นทาง คือ
                      (1) วิถีอะโพพลาสต์  โดยผ่านผนังเซลล์ของแต่ละเซลล์และช่องระหว่างเซลล์  ซึ่งมีอยู่ใน
            รากทั้งหมด และเมื่อถึงเซลล์ในชั้นเอนโดเดอร์มิส ธาตุอาหารต้องเข้าสู่กลไกการดูดโดยโปรตีนขนส่งที่เยื่อ

            หุ้มเซลล์ของเอนโดเดอร์มิส  ไม่สามารถใช้วิถีอะโพพลาสอีกต่อไป  เนื่องจากมีแถบแคสแพเรียนขัดขวาง
            การผ่านของน�้าและไอออนที่ผนังเซลล์ในชั้นเอนโดเดอร์มิส  เมื่อไอออนของธาตุอาหารถูกดูดเข้าสู่เซลล์
            ในชั้นเอนโดเดอร์มิสแล้วก็เข้าสู่วิถีซิมพลาสของมัดท่อล�าเลียงต่อไป



                    ดิน ธาตุอาหารและปุ๋ยข้าว                                สัณฐานวิทยาของข้าว  173
   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182