Page 41 -
P. 41
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
34 พันธุศาสตร์ประชากร
สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์
เพราะฉะนั้น
1
(1)
ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ AB ในรุ่นที่ 1 คือ g = g - d
11 11 2 0
1
ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ Ab ในรุ่นที่ 1 คือ g = g + d
(1)
12 240 12 2 0
1
240
ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ aB ในรุ่นที่ 1 คือ g = 400 = g + d
240
240
240 240
(1)
= ൌ
ൌ
ൌ
=
21 2 21 2 0
(20)
400(20)
(20)
400
2
2
2 2
24
2 20
240
g - d
2 2
× ×240
× ×240
ൌ
× ×240 =
1 1
22 2 0
1 1
(20)
1 ൌ
400
(1) ൌ
1 1 ൌ
2
2
2
2
2
2 2
[ (130)−
[ (130)− (110)]
ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ ab ในรุ่นที่ 1 คือ g = (110)][ (130)− (110)]
2
2
22 2
1
1
1
1
1
1
2 2
× ×240
1 1
(1)
ൌ
(1)
เมื่อมีการผสมกันแบบสุ่มอีกครั้งของเซลล์สืบพันธุ์จะได้ลูกที่เกิดขึ้นใหม่ในรุ่นถัดมา คือ
(1) ൌ 2
2
ൌ
ൌ
[ (130)− (110)]
2
2
∴
2 )
∴
( −
∴
( − ) ( − )2
1
1
ลูกรุ่นที่ 2 (Z ) จะมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์อีกครั้งและหาค่าความแตกต่างของเซลล์สืบพันธุ์ในรุ่นที่ 2
(1)
ൌ
2 ( เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร
2
∴
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร − )
กับรุ่นที่ 1 ได้ ดังนี้ 2 1 2 1 2 1 ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า0 และ a 2 มีค่า ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า มีค่าเท่ากับ 70+60 = 13
d = 2 (1) (1) (1) (1) จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
1 g g - g gเป็น 1 : 1 ่ง A เป็น 1 : 1 1 11 22 12 21 (1) ทดสอบ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A งยีนต าแหน (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 อัตราส่วนขอ
d
=
1 -1 60 1 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 0 12 2 1 50 -1 0 aabb จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ 21 1 2 0 aabb 50 aabb
(g - d )(g - d ) - (g + d )(g + d )
0 60
60
2
2
22
11
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
-1
-1
1 50
1
1
1 -1 -1
1
1
1
2
1
1
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
1
-1 1 d 1 = -1 g g - d g - d g + d - g g - d g - d g - d 2 aaBb
1 60
-1
60
-1
-1 1
aaBb
aaBb
60 -1
60
× aabb ได้ลูกที่มีจีโ 1 -1 11 22 2 1 -1 0 22 2 60 0 11 41 0 60 Aabb 12 21 2 0 21 2 60 0 12 4 0 Aabb
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์นไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
aabb
50
1
-1
-1
-1
-1
-1
Aabb
-1
-1 หาค่าไคสแควร์แ หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่าหาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่าบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
=
g g - g g - d (g + g + g + g )
d
2
60
-1
aaBb
1
12 21
21
11 22
1 1 Locus B × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
22
0 11
12
1 70
AaBb
1
70 1
AaBb
1
70
1 1
1
1
AaBb
1
น้อยกว่า 7.815 Linkage 1 Locus B Locus A Locus A 60 Locus A Aabb
หาค่าไคสแควร์แ 1 จ านวนต้น จีโนไทป์ AaBb
d
-1
-1
= บบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
Linkage
Locus B
Linkage
0 2
เดียวกันหรือไม่มี orthogonal 1 d - d 0 orthogonal 70
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
1
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซมน้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซมที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม จีโนไทป์ จ านวนต้น จีโนไทป์ จ านวนต้น
1
1
orthogonal
1
=
d
d
Linkage น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
Locus A
Locus B
2
2
= ∑ [ค่า m 1 m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ
2
] − N ส่วน
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ 2 = ∑ [ a i 2 ] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ 1 คนละโครโมโซม 1
1
จากสูตรที่ 1
] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ , orthogonal จะเป็นดังนี้
1 จากสูตรที่ 1
n
n
n
2 a i
2
a i
จ านวนต้น
จีโนไทป์
จากสูตรที่ 1 =
0 ∑ [
(n−1) i m i N i m i N (n−1) i m i N 4 4 4
(n−1)
คนละโครโมโซม คนละโครโมโซม
ortho
gonal
2 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ
2 ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ 1 ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
จากสูตรที่ 1
22
2 a i
n
2
ในท�านองเดียวกัน เมื่อมีจ�านวนรุ่นที่เพิ่มขึ้นจนถึงรุ่นที่ n จะได้ 2 คนละโครโมโซม 2 2 ท าการตรวจส ) −240 4 2 2 ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน ) −240
2
2
= ∑
2 +(60) +(60)
(70) [
2
] − N ส่วนค่า m 1
i
(n−1)
ൌ (
ൌ (
ൌ (
m i N
(1)
(1)
1
22อบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
(70) +(60) +(60) +(50)(70) +(60) +(60) +(50)+(50) ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
(240) 1(1)) −240 ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ (240) 1 (240)
2 4 3 4 n 4
2
2
2
d 1 2 ൌ ൌ ( (70) +(60) 2 ) −240 = 243.33 ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 3.33 − 240 = 3.33
60
60
60
2
) −240 = 24
14,600 ) −240
n = d = d = d = … = d − 240 = 3.33 ൌ (( 14,600 (1) 2 60 n-2 ൌ ( 14,600 1 2 60 n-3 ) −240 = +(60) +(50) ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน 1 14,600 ൌ ( 2 60 0
n-1
1 14,600 ൌ ( 243.33 − 240 = 3.33 ) −240 = 243.33
ൌ (
1 14,600 ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 − 240 = 3.33
(240)
4 4 n 4 4
เมื่อ n ∞ จะได้ค่า d = 0 ประชากรเข้าสู่สภาพสมดุลโดยมีความถี่ของจีโนไทป์
(240)
(240)
ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
(240)
2 +(60) +(50) 2 ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33
60
(1)
(1)
1
1
(1)
) −240 ) −240 = 243.33
) −240
ൌ (
1 ൌ ( 1 14,600 ൌ (
ൌ (
) −240 − 240 = 3.33
2 2 60
2
(70) +(60) +(60) +(50) +(60) +(50)
ൌ ( 14,600
(70) +(60)
(70) +(60)
และยีนคงที่จะสามารถหาความสัมพันธ์ของสมการได้ 2 2
2
2
ท าการตรวจสอบ 22
0 22
2
2
2
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
ต าแหน่ง A เป็น
4
(240)
ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
(1)
1
4
) −240
4
คนละโครโมโซม คนละโครโมโซม 2 4 1 2 ] − N ส่วนค่า 2 a i 2 m i N คนละโครโมโซม i n = ∑ [ 2 (n−1) 2 ] − จากสูตรที่ 1 2 a i m i N i n จากสูตรที่ 1 N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 = ∑ [ (n−1) 2 จากสูตรที่ 1
ൌ (
(n−1)
m i N
i
(70
= ∑ [) +(60) +(60) +(50)
a i 2
2
n
1
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
1
2
] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ มีค่าเท่ากับ
4
คนละโครโมโซม จ านวนต้น ] − 2 a i m i N i n = ∑ [ (n−1) 2 orthogonal orthogonal orthogonal
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3
จีโนไทป์
จากสูตรที่ 1
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
1
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ และ m 4 มีค่าเท่ากับ
Locus A จ านวนต้น ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เหบ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม Locus A Locus B Locus A Linkage Locus B Linkage
Locus B Linkage
จ านวนต้น จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากั
จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
น้อยกว่า 7.815 ที่ df
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห
AaBb AaBb 70 70 AaBb 1 70 orthogonal เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ 1 หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า.05 พบว่า มีค่า 1 1 1 1 1
1
1
จ านวนต้น
Linkage
Locus A
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเ
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่าปิดตารางไคสแควร์ที่ 0
Aabb Aabb 60 60 Aabb 1 60 1 × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 Locus B 1 × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์ท าการวิเคราะห์ -1 -1 -1 -1 -1
-1
จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห
AaBb
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์: 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อ
aaBb aaBb 60 70 60 aaBb -1 1 60 -1 1 1 -1 1 -1 1 -1 1 -1
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
Aabb
aabb aabb 50 60 50 aabb -1 1 50 -1 60 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์ × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb 60 -1 -1 -1 1 -1 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 60 1 -1 1
aaBb 60 -1 -1 1 -1
(1) ทดสอบอัตรา 50 -1 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 60 -1 1
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 ส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
aabb
จะเห็นได้ว่ามีกา จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ รแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
1
ก าหนดให้ m 1 และ ก าหนดให้ 1 1
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
2
2
2
เท่ากับ 50+60 =
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร 110 แทนค่าสูตร
1
ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
2
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร 2 − ) ( − ) 2 ( − )
∴
∴
∴
2
(
ൌ
(1)
(1) ൌ (1) ൌ
1
1
1
1
( −
∴ 2 [ (130)− (11 1 2 ) 1 2 [ (130)− (110)] 2
[ (130)− (110)]0)]
2
2
ൌ
(1) ൌ 2 ൌ 1 1 2 2 1 1 2
ൌ
1 1
× ×240 × ×240 × ×240
2 2 2 2 2 2
1 1
[ (130)− (110)] 2
ൌ
(20) 2 2 400 2 (20) 2 400 (20) 2 400
1 1
ൌ = × ൌ ×240 = ൌ =
240
240 2 2 240 240 240 240
2
(20) 400
ൌ =
240 240