Page 41 -
P. 41

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



           34   พันธุศาสตร์ประชากร
                  สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์


           เพราะฉะนั้น

                                                                  1
                                                  (1)
           ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ AB ในรุ่นที่ 1 คือ    g   =   g -    d
                                                  11           11 2  0
                                                                  1
           ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ Ab ในรุ่นที่ 1 คือ    g   =   g +   d
                                                  (1)
                                                  12     240   12 2  0
                                                                  1
                                                               240
           ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ aB ในรุ่นที่ 1 คือ    g   =   400  =  g +   d
                                                240
                                240
                                          240 240
                                                  (1)
                                            = ൌ


                                                                  ൌ
                                                   ൌ

                                   =

                                                  21         2  21 2  0
                                                 (20)
                                          400(20)
                                                                (20)
                                400
                                    2
                                              2
                                                            2 2
                                   24
                                    2 20
                                         240
                                                              g -   d
                                             2 2
                                                           × ×240
                                   × ×240
                                            ൌ

                                             × ×240 =

                                      1 1
                                                               22  2  0
                                                            1 1


                                          (20)
                                                                  1 ൌ
                                   400
                                                  (1) ൌ
                                             1 1 ൌ
                                2
                                          2
                                                               2
                                                         2
                                                2
                                      2 2
                                                               [ (130)−
                                                 [ (130)− (110)]
           ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ ab ในรุ่นที่ 1 คือ    g   =  (110)][ (130)− (110)]
                           2
                                     2
                                                  22 2
                                1
                                      1
                                                               1
                                          1
                                                         1
                                                1
                                      2 2
                                     × ×240
                                      1 1
                                                                       
                                                             
                                                                                     


                                                                      (1)
                                            ൌ
                                             (1)
                  เมื่อมีการผสมกันแบบสุ่มอีกครั้งของเซลล์สืบพันธุ์จะได้ลูกที่เกิดขึ้นใหม่ในรุ่นถัดมา คือ
                                                       (1)                            ൌ  2
                                   2
                                                   ൌ
                                                                  ൌ





                                         [ (130)− (110)]
                                                                      2
                                             2
                                                          ∴  
                                                       2      )
                                                                         ∴  
                                                                (                    −              
                                                 ∴  
                                                 (                    −                    ) (                    −                    )2
                                   1
                                         1
                                                          
                                           
                                 
           ลูกรุ่นที่ 2 (Z ) จะมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์อีกครั้งและหาค่าความแตกต่างของเซลล์สืบพันธุ์ในรุ่นที่ 2
                                                               
                                                (1)

                                            ൌ

                       2                  (                             เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร
                                                2
                                                   ∴  
                                                                                       เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร   เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร                  −                    )
           กับรุ่นที่ 1 ได้ ดังนี้  2  1  2  1         2  1  ก าหนดให้ m 1 และ  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1  เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร    ก าหนดให้ m 1 และ  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า0 และ a 2 มีค่า  ก าหนดให้ m 1 และ  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า  มีค่าเท่ากับ 70+60 = 13
                  d       =      2  (1) (1)  (1) (1)     จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้    ก าหนดให้ m 1 และ  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า  จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้    จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
                    1            g g - g gเป็น 1 : 1 ่ง A เป็น 1 : 1   1  11  22    12  21  (1) ทดสอบ  (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A งยีนต าแหน  (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 อัตราส่วนขอ
                  d
                          =
              1   -1   60  1 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์  0  12  2 1 50 -1      0 aabb   จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้    21  1 2     0  aabb   50      aabb

                                 (g -   d )(g -   d ) - (g +   d )(g +   d )
                                        0 60
                           60
                                     2
                                              2
                                           22
                                  11
                                พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
                              -1
                      -1
                                              1 50
                          1
  1
                                     1 -1 -1
                                                                 1
                                              1
                                                                         1
                                                        2
                                                      1
                                                                                1
                                                              (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
                                       1
              -1   1   d     1      =   -1   g g -   d g -   d g +   d - g g -   d  g -   d g -   d 2  aaBb

                    1 60
  -1
                                                                        60
                          -1
                                        -1  1
                                                                     aaBb
                                                           aaBb
                                                          60 -1
                                                60
               × aabb ได้ลูกที่มีจีโ  1   -1   11 22 2 1 -1   0 22 2 60   0 11 41   0   60    Aabb  12 21 2  0 21 2 60   0 12 4  0  Aabb
                        × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์นไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
                        พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
                                                             aabb
                                                  50
    1
                -1
           -1
  -1
                      -1
             -1
                                                                     Aabb
                          -1
             -1   หาค่าไคสแควร์แ หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่าหาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่าบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า

                          =
                                 g g - g g -    d (g + g + g + g )

                  d
                                              2
                                                  60
                                 -1
                                                             aaBb
               1
                                        12 21
                                                            21
                                  11 22
                    1  1   Locus B  × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
                                                                22
                                                 0 11
                                                        12
                                              1 70
                                                                                    AaBb
                          1
                                                          70  1
                                                           AaBb
            1
                                                                        70
                                        1  1
                              1
           1
                                                                     AaBb
  1
               น้อยกว่า 7.815   Linkage   1   Locus B Locus A   Locus A   60   Locus A   Aabb
                 หาค่าไคสแควร์แ     1                       จ านวนต้น   จีโนไทป์  AaBb
                  d
    -1
               -1
                          = บบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
             Linkage
               Locus B
    Linkage
                                  0 2
               เดียวกันหรือไม่มี   orthogonal   1   d -   d   0  orthogonal  70
                        เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
                    1
                        น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซมน้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซมที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม จีโนไทป์ จ านวนต้น จีโนไทป์ จ านวนต้น
               1
    1
                      orthogonal
                                  1
                          =
                  d
                                    d
              Linkage   น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
                                   Locus A
                 Locus B
                                  2
                                                  2
                                            = ∑ [ค่า m 1 m 2 , m 3  และ m 4  มีค่าเท่ากับ
                                        2
                                         ] − N ส่วน
                 เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ  2  = ∑ [  a i 2  ] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3  และ m 4  มีค่าเท่ากับ        1  คนละโครโมโซม   1
                                                                         1
                                             จากสูตรที่ 1
                                                   ] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3  และ m 4  มีค่าเท่ากับ     , orthogonal จะเป็นดังนี้
                    1 จากสูตรที่ 1 
                                               n
                                                             n
                                     n
                                       2 a i
                              2
                                                 a i
                                                     จ านวนต้น
                                                              จีโนไทป์
                              จากสูตรที่ 1 =
                                    0 ∑ [
                              (n−1)  i  m i N  i  m i N  (n−1)  i  m i N  4        4              4
                                       (n−1)
                                                                        คนละโครโมโซม  คนละโครโมโซม
                         ortho
                     gonal
                                                        2 , m 2 , m 3  และ m 4  มีค่าเท่ากับ
                                          2                    ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่  ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่  1  ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
                       จากสูตรที่ 1 
                                                   22
                                          2 a i
                                       n
                                2
           ในท�านองเดียวกัน เมื่อมีจ�านวนรุ่นที่เพิ่มขึ้นจนถึงรุ่นที่ n จะได้ 2  คนละโครโมโซม   2  2 ท าการตรวจส  ) −240   4 2  2 ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน  ) −240
                                                                       2
                                               2
                                    = ∑
                                          2 +(60) +(60)
                                                       
                                      (70) [
                                2
                                           ] − N ส่วนค่า m 1
                                       i

                                (n−1)


                                             ൌ (
                                   ൌ (
                                                            ൌ (
                                          m i N
                                (1)
                                          (1)
                                              1
                                                         22อบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
                                                (70) +(60) +(60) +(50)(70) +(60) +(60) +(50)+(50) ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
                                              (240)    1(1)) −240  ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่  (240)  1 (240)
                                        2     4   3    4        n     4
                                                           2
                                            2
                                                      2
                   d          1   2  ൌ  ൌ (   (70) +(60) 2  )  −240 = 243.33 )  −240 = 243.33 − 240 = 3.33 3.33 − 240 = 3.33

                                                              60
                                               60
                                     60
                              2
                                           )  −240 = 24
                                                                14,600 ) −240
                    n        =      d =     d =       d    = … =      d − 240 = 3.33 ൌ (( 14,600 (1)  2 60 n-2    ൌ ( 14,600  1 2 60 n-3  )  −240 = +(60) +(50) ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน  1 14,600 ൌ ( 2 60 0
                                n-1

                                                1 14,600 ൌ ( 243.33 − 240 = 3.33  )  −240 = 243.33
                                          ൌ (
                                          1 14,600 )  −240 = 243.33 − 240 = 3.33  − 240 = 3.33
                                                 (240)
                                4        4  n     4     4
                    เมื่อ n     ∞ จะได้ค่า     d =  0  ประชากรเข้าสู่สภาพสมดุลโดยมีความถี่ของจีโนไทป์
                               (240)
                                                       (240)
                              ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
                                         (240)
                                                       2 +(60) +(50) 2 )  −240 = 243.33 − 240 = 3.33
                                        60
                                                       (1)
                                                                      (1)
                                                        1
                                1
                                             (1)
                                            ) −240  )  −240 = 243.33
                   ) −240
                                                    ൌ (
                                         1 ൌ ( 1 14,600 ൌ (
                                                                  ൌ (

                             ) −240  − 240 = 3.33


                                        2 2 60
                                                                      2
                                                        
                                              
                                                 (70) +(60) +(60) +(50) +(60) +(50)
                                                                       
                                      ൌ ( 14,600
                                                               (70) +(60)
                                       (70) +(60)
           และยีนคงที่จะสามารถหาความสัมพันธ์ของสมการได้  2  2
                                    2
                                   2
                    ท าการตรวจสอบ 22
                                            0   22
                    2
                                                  2
                              2

                        ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
               ต าแหน่ง A เป็น
                                  4
                                 (240)
                       ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
                                                (1)
                                  1
              4
                      ) −240
    4
               คนละโครโมโซม คนละโครโมโซม    2  4  1  2  ] − N ส่วนค่า   2  a i 2  m i N  คนละโครโมโซม   i  n  = ∑ [ 2  (n−1)  2  ] − จากสูตรที่ 1   2  a i  m i N  i  n  จากสูตรที่ 1  N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3  และ m 4  มีค่าเท่ากับ    m 1 , m 2 , m 3  และ m 4  = ∑ [  (n−1)  2  จากสูตรที่ 1 
                                            ൌ (
                                                (n−1)
                                                m i N
                                        i
                                         (70
                                           = ∑ [) +(60) +(60) +(50)
                                                 
                                                a i 2
                       2
                                        n
    1
                 ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
              1
                                               2
                                              ] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3  และ m 4  มีค่าเท่ากับ     มีค่าเท่ากับ
      4
                 คนละโครโมโซม  จ านวนต้น   ] −  2  a i  m i N  i  n  = ∑ [  (n−1)  2  orthogonal   orthogonal   orthogonal
                                                                                       เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้  N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3
                 จีโนไทป์
                                                           จากสูตรที่ 1 
                                                               เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
      1
                                                                        เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้   และ m 4  มีค่าเท่ากับ
                                            Locus A   จ านวนต้น  ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เหบ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม  Locus A  Locus B  Locus A  Linkage Locus B   Linkage
                                                                        Locus B  Linkage
                                     จ านวนต้น จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
                                                               น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากั
                           จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
                                                                        น้อยกว่า 7.815 ที่ df
                                                                                       น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห
                  AaBb      AaBb 70    70  AaBb 1     70   orthogonal  เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้   1  หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า.05 พบว่า มีค่า  1 1   1  1   1
                                                                 1
                                                         1
                             จ านวนต้น
                                                                            Linkage
                                               Locus A
                                                               หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเ
                                                                                       หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่าปิดตารางไคสแควร์ที่ 0
                  Aabb      Aabb 60    60  Aabb 1     60   1   × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70   Locus B   1  × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์ท าการวิเคราะห์  -1 -1   -1  -1   -1
                                                                 -1
                    จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
                                                                 น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห
                     AaBb
                                                                                       × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์: 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อ
                  aaBb      aaBb 60  70   60  aaBb -1   1   60  -1      1   1   -1   1 -1   1   -1  1   -1
                                                                 หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า


                    Aabb
                  aabb      aabb 50  60   50  aabb -1   1   50  -1   60   พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์  × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb   60  -1   -1   -1 1   -1   พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์  พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์   60   1  -1   1
                     aaBb       60               -1              -1     1     -1
                  (1) ทดสอบอัตรา  50             -1       พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์   60   -1   1
                           (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 ส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
                     aabb
                    จะเห็นได้ว่ามีกา จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้  จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้  รแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้

                    (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
                              ก าหนดให้ m 1 และ  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า m 1 และ  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
                                               1
                    ก าหนดให้ m 1 และ        ก าหนดให้  1              1
                       จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
                                               2
                                                                       2
                                                        2
               เท่ากับ 50+60 =
                        เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร  เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร   110 แทนค่าสูตร
                                                 1
                       ก าหนดให้ m 1 และ  m 2 และมีค่าเท่ากับ   ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
                                                 2
                 เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร    2 −                    ) (                    −                    ) 2          (                    −                    )     
                                                    
                                                     ∴  
                                      ∴  
                             ∴  
                                2
                                      (                   


                                                                                      ൌ
                                                         (1)
                                (1)  ൌ    (1)  ൌ
                                                                                                                    
                                                                      1
                                                                1
                                       1
                                             1
                                        (                    −    
                               ∴   2     [ (130)− (11                1 2 )       1  2  [ (130)− (110)] 2
                                                [ (130)− (110)]0)]
                                             2
                                                       2
                                                               ൌ
                                  (1) ൌ     2 ൌ      1 1                      2                             2  1 1  2

                                              ൌ        
                                                   1 1
                                          × ×240    × ×240         × ×240
                                          2 2      2 2            2 2
                                         1     1
                                         [ (130)− (110)] 2
                                      ൌ
                                      (20) 2 2  400 2 (20) 2     400  (20) 2  400
                                            1 1
                                    ൌ      = × ൌ    ×240  =     ൌ    =
                                             240
                                       240  2 2  240   240     240   240
                                           2
                                        (20)   400
                                      ൌ      =
                                         240   240
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46