Page 129 -
P. 129
113
บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1
=
2
2
a + a + 2a a r
1
2
1 2 g 1 g 2
1
=
a + a + 0
2
2
1
=
2a
2
117
117
117
บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำทห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำทบทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำทระสิทธิ์ค่ำบำท
บทที่ 3 กำรวิเครำะบทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมป
√ = จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
1
1
=
a
√2
2
′ ′
′′
1+FF
= F เป็นค่ำ
1+F
1+
1+F
b
√
ൌ
3. Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r √ b ൌ
ൌ
ൌ √
b
b
√
2
1
g 1 g 2
2
2
2
2
อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
′
′
′
′
11
1+F
1
1+F
1+F1
1+F
ൌ × √√
√× √
ൌ
a′b
ൌ
a′b
a′b
× √ a′b
ൌ
√ × √
′ √
′
′
′
2(1+F )2(1+F)
2(1+F )2 2(1+F)
2
2
2
1
1
1
1
a′b
ൌ a′b
ൌ
a′b
ൌ
a′b
ൌ
2
2
2
2
5. Correlation between causes ส ำหรับกรณีนี้จะมีพำรำมิเตอร์ใหม่ขึ้นมำอีก 1 ค่ำ คือ m ซึ่งเป็น between causes ส ำหรับกรณีนี้จะมีพำรำมิเตอร์ใหม่ขึ้นมำอีก 1 ค่ำ คือ m ซึ่งเป็นn causes ส ำหรับกรณีนี้จะมีพำรำมิเตอร์ใหม่ขึ้นมำอีก 1 ค่ำ คือ m ซึ่งเป็นคือ m ซึ่งเป็น
5. Correlation between causes ส ำหรับกรณีนี้จะมีพำรำมิเตอร์ใหม่ขึ้นมำอีก 1 ค่ำ
5. Correlation
สหสัมพันธ์ระหว่
สหสัมพันธ์ระหว่ำงจีโนไทป์ของพ่อแม่ G และ G' ซึ่งในแต่ละรุ่นพ่อแม่จะมีบรรพบุรุษร่วมกันหรือไม่ ำงจีโนไทป์ของพ่อแม่ G และ G' ซึ่งในแต่ละรุ่นพ่อแม่จะมีบรรพบุรุษร่วมกันหรือไม่ โนไทป์ของพ่อแม่ G และ G' ซึ่งในแต่ละรุ่นพ่อแม่จะมีบรรพบุรุษร่วมกันหรือไม่ วมกันหรือไม่
เรียกว่ำ common ancientor ในกรณีนี้ให้ค่ำบำทจำก G ไปยัง g มีค่ำเท่ำกับค่ำบำทจำก G ไปยัง ไปยัง g มีค่ำเท่ำกับค่ำบำทจำก G ไปยัง ไปยัง g มีค่ำเท่ำกับค่ำบำทจำก G ไปยัง ำก G
เรียกว่ำ common ancientor ในกรณีนี้ให้ค่ำบำทจำก Gำก G ไปยัง g มีค่ำเท่ำกับค่ำบำทจ ไปยัง
1
2
1
1
2
1
2
1
2
1
1
1
g ในภำพนี้จะเห็นว่ำ D เป็นบรรพบุรุษร่วมของ G และ G ็นว่ำ D เป็นบรรพบุรุษร่วมของ G และ G ง G และ G
g ในภำพนี้จะเห
2
1
2
2 1
2
2
1 2
1
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1
=
2
2
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2 สหสัม เรียกว่ำ common ancientor ในกรณีนี้ให้ค่ำบำทจ g ในภำพนี้จะเห็นว่ำ D เป็นบรรพบุรุษร่วมขอ 117 2 สหสัมพันธ์ระหว่ำงจีพันธ์ระหว่ำงจีโนไทป์ของพ่อแม่ G และ G' ซึ่งในแต่ละรุ่นพ่อแม่จะมีบรรพบุรุษร่ เรียกว่ำ common ancientor ในกรณีนี้ให้ค่ำบำทจำก G g ในภำพนี้จะเห็นว่ำ D เป็นบรรพบุรุษร่วมของ G และ G 5. Cor
a + a + 2a a r
1
2
1 2 g 1 g 2
1 = a + a + 2a a F
2
2
1 2
122 พันธุศาสตร์ประชากร 1 = 2a + 2a a F
2
1 2
ในกรณีนี้ D เป็น ในกรณีนี้ D เป็นบรรพบุรุษร่วมของ G และ G ซึ่งมีสหสัมพันธ์เป็น m และจะเห็นได้ว่ำสหสัมพันธ์บรรพบุรุษร่วมของ G และ G ซึ่งมีสหสัมพันธ์เป็น m และจะเห็นได้ว่ำสหสัมพันธ์พบุรุษร่วมของ G และ G ซึ่งมีสหสัมพันธ์เป็น m และจะเห็นได้ว่ำสหสัมพันธ์ำสหสัมพันธ์ สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์ = 2a (1 + F) 2 2 1 2 1 ในกรณีนี้ D เป็นบรรพบุรุษร่วมของ G และ G ซึ่งมีสหสัมพันธ์เป็น m และจะเห็นได้ว่ ในกรณีนี้ D เป็
1
1
2 2
1
ระหว่ำงเซลล์สืบ ระหว่ำงเซลล์สืบพันธุ์ g และ g มีค่ำ rพันธุ์ g และ g มีค่ำ r หรือ F หรือ F rหรือ F หรือ F g 1 g 2 2 1 2 1 ระหว่ำงเซลล์สืบพันธุ์ g ระหว่ำงเซลล์สืบพันธุ์ g และ g มีค่ำ r และ g มีค่ำ
จาก ab
1 2
1
2
2
a = 1 g 1 g 2 2 g 1 g 2 2 g 1 g 2 2
2
F m
F ൌ 2(1+F) ൌ b m b m m ൌ b F ൌ F
b
1
แทนค่า จะเห็นได้ว่ำถ้ำ m = 0 จะไม่มี inbreeding ็นได้ว่ำถ้ำ m = 0 จะไม่มี inbreeding 1 1+F , จะเห็นได้ว่ำถ้ำ m = 0 จะไม่มี inbreeding จะเห็นได้ว่ำถ้ำ m = 0 จะไม่มี inbreeding
r
จะเห a = = 2 √
1+F
FS 2(1+F)
โดย 1+F ′′ 1+F 1+FF ′ ′ 1+ โดย b โดย b
โดย b b
m = ൌ 2F √ , ൌ √ √ ൌ √ ൌ
(1+F ) 2 2 2 2
2 , 22 2 2
x 1+ √ F
′
r F = ൌ 2 x (m 1 F √ ) x 1+F 1+F ′ 1+F ( √ ൌ ′ 1+F1+F 2F ′ , ) m ൌ F
ൌ ) m )m ( √
FS 2 22 1+F 1+F (
22
, ,
F = ൌ 2 x 1+F ′ ×× m x 1+F + 2F ′′ ൌ m 2 1+F , 1+F ൌ × m × m ′ 2 F 1+F ൌ F
F
1+F
1+F
4
1+F
2
2
r 2F = ൌ 1 x (1 ′ , ′ ൌ (1 + F )m (1+F )m ′ ൌ ′ ൌ 2F 2F
1+F + 2F (1+F )m
2F + F )m
FS 2 1+F
m m 2F ൌ 2F 2F m 2F m
เมื่อ m = 0 จากสูตร F = b m จะได้ค่า F = 0 เมื่อแทนค่า F ลงไปในสูตร r
ൌ
ൌ
2
ൌ
′′
′ ′
(1+F
(1+F )F)
(1+F ))
(1+
FS
,
r = 1 x 1+F + 2F
FS 2 1+F
,
= 1 x 1+F + 2(0)
2 1+0
,
r = 1 x (1+F )
FS 2
,
ถ้า F = 0
r = 1 x (1+0)
FS 2
= 1
2
r = r
FS OP