Page 125 -
P. 125
113
บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1
=
2
2
a + a + 2a a r
1
2
1 2 g 1 g 2
1
=
2
a + a + 0
2
1
=
2
2a
√ = จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
1
1
=
a
√2
2
1
3. Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r
2
g 1 g 2
อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
113
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1 บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท 113 = F เป็นค่ำ
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1 2 1 2 = a + a + 2a a r
1
2
2
2
=
a + a + 2a a
1 r
1 2 g 1 g 2
118
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1
2
1 2 g 1 g 2
พันธุศาสตร์ประชากร
1
=
a + a + 2a a F
สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์
2
2
2
1 2
1 = a + a + 0 1 2 113
=
2
บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
2
a + a + 2a a r
1 = 2a 1 2 = 1 2 g 2 1 g 2 1 2
1
2a + 2a a F
2
2
จาก 1 F = a + a + b m
= 0
2
2
1
=
2
2a (1 + F)
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1 √ 1 2= จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
=
1
a
1
=
1 F
2
=
b
2a √2
2
m
=
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
a
2
√ = จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
2(1+F)
1
=
1
a
3. Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g และ g 2มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r g 1 g 2 = F เป็นค่ำ
1
22
1
a + a + 2a a r1 F
=
2
√2
b
m
√
อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient 1 a = 2 = 1 2 g 1 g 2
1
2(1+F)
=
a + a + 0
2
2
3. Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r g 1 g 2 = F เป็นค่ำ
1
2
ส่วนกรณีที่มีบรรพบุรุษร่วมกัน การหาค่า m จะมีค่า
1
=
2
อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient 2a
1
1
a = √ = จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
2 √2
1
2
3. Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r g 1 g 2 = F เป็นค่ำ
อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
G G
1 2
g g
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1 1 2
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ ห รือไซโกต
m = r
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1 G DG + G EG + G Dr EG + G Er DG 2
=
G G
1
1
2
DE
1
1 DE
2
=
1 2
1 2
2 2
a + a + 2a a r
1
2
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจ 2 ำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1 2 g 1 g 2
=
(ab) + (ab) + (ab) r + (ab) r
2
2
2
1
=
DE
2
DE
a + a + 2a a F
2
1
1 2
=
2
2
a + a + 2a a r
2(ab) + 2(ab) r
1 = = 2a + 2a a F 2 DE
2
2
1
1 2 g 1 g 2
2
1
1 2
=
2
a + a + 2a a F
2
1 2
a
b (1 + r )
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1 1 = = 2a (1 + F) DE F
2 2
2
2
1
=
2
2a + 2a a
1 2
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1
=
จากข้างบนให้แทนที่ a และ b
a
1
2
=
2a (1 + F)
2
1 = 2(1+F) 2
2
a + a + 2a a r
a a = = √ 1 1 1 1 2 1 2 g 1 g 2
2 a
=
1 = 2(1+ 2(1+F) 2 1 2
2(1+F)
2F)
a + a + 2a a F
,
1 1+F
b a 1 = = 2a + 2a a F
2
= √
2
2(1+F) 1 2
1
6. Equilibrium conditions เมื่ออยู่ในสภาพสมดุลแล้วค่าบาท a และ b จะคงที่ทุกชั่วไป
=
2
2a (1 + F)
ดังนั้น ค่าบาทใน 1 ชั่วของจีโนไทป์ไปเป็นจีโนไทป์หรือไซโกต ในสภาพสมดุล มีค่าเท่ากับ ab
1
=
a
2
2(1+F) ,
1 1+F
ab a = = 1 √ 2(1+F) = 1
2
2
1+F
จะเห็นได้ว่าในทุกชั่วจะมีค่า inbreeding เท่ากับ 1
2