Page 133 -
P. 133
บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
113
บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1
2
2
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1 = a + a + 2a a r 113
1
2
1 2 g 1 g 2
2กียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเ 2
1
=
a + a + 0
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1 = 2a
2
1
126 พันธุศาสตร์ประชากร = a + a + 2a a r
2
2
2
1
1 2 g 1 g 2
สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์
1
1
1 = √ = จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
a
=
a + a + 0
2
2
2 √2
1 = 2a
2
1
2
3. Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r g 1 g 2 = F เป็นค่ำ
1
1
a = √ = จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient 2 √2
= F เป็นค่ำ
3. Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r g 1 g 2
2
1
อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
จากภาพสามารถหาสหสัมพันธ์ระหว่าง individual ได้ดังนี้
1. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงพ่อแม่กับลูก (parent-offspring)
ความสัมพันธ์ของพ่อและลูกชาย = r XYS
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
r = 1(0) + m(1)b
XYS
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
m = 0 (พ่อและแม่ไม่ได้เป็นญาติกัน) = m(0)
1 = a + a + 2a a r
2
2
2
จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
1
r 1 = 0 2 1 2 g 1 g 2
XYS
=
a + a + 2a a F
2
ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
1 2
ความสัมพันธ์ของแม่และลูกชาย 1 = 2a + 2a a F
=
r 2
XXS
1 = a + a + 2a a r
1 2
2
2
2
1
=
1 = 2a (1 + F) 1 2 g 1 g 2
b(1) + m(1)0
2
1
=
a + a + 2a a F
2
2
1 2
a = = 2a 1 2 1 2
1
2
=
b + 2a a F
2(1+F)
,
1 1+F
=
r 1 = = 2a (1 + F)
2
a
2
√
XXS
2(1+F)
,
เมื่อ F = 0 a = 1
2
2(1+F)
1
r a = = √ 2(1+F)
1
XXS
2
ความสัมพันธ์ของพ่อและลูกสาว = r XYD
= a(1) + abm
= a(1 + bm)