Page 99 -
P. 99

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว









                                     ในส่วนลูกค้าในประเทศ บริษัทจ้าหน่ายให้แก่บริษัททอผ้าคือบริษัท กรีนวิลล์ จ้ากัด
                       และเกษตรกรทอผ้า โดยเกษตรกรมักจะสั่งซื้อเส้นด้ายยืนเพื่อน้าไปใช้ในการทอผ้า

                                     ส่วนลูกค้าต่างประเทศนั้นพบว่าเป็นการจัดจ้าหน่ายให้แก่ลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น โดย
                       เป็นลูกค้าที่ท้าการค้าขายกันอยู่แล้วจ้านวน 2-3 ราย  โดยมีการส่งจ้าหน่ายปีละ 2 ครั้ง ปริมาณ

                       จ้าหน่าย 500 กิโลกรัมต่อปี ราคาที่จ้าหน่ายประมาณ 1,800-2,000 บาท/กิโลกรัม โดยมีก้าไร
                       ประมาณร้อยละ 10

                               3.2.2 อุตสาหกรรมกลางน้้า

                                  1) อุตสาหกรรมทอผ้า
                                  การทอผ้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ เกษตรกร และโรงงานอุตสาหกรรม

                                     1.1) กลุ่มเกษตรกรทอผ้า

                                     เกษตรกรที่ท้าการทอผ้าไหมอีรี่นั้นมักจะเป็นเกษตรกรที่มีความเชี่ยวชาญในการทอ
                       ผ้า เนื่องจากต้องอาศัยทักษะและความช้านาญ  ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ท้าการทอผ้าไหมอีรี่ประมาณ

                       45 ราย และมีแนวโน้มที่จะลดลง เนื่องจากผู้ทอผ้าไหมในปัจจุบันมักจะเป็นผู้สูงอายุ
                                        1.1.1) ด้านวัตถุดิบ

                                        ในการทอผ้าจะมีการใช้เส้นด้าย 2 ชนิดคือ เส้นยืนและเส้นพุ่ง โดยเส้นพุ่ง
                       เกษตรกรจะรับซื้อเส้นด้ายไหมอีรี่จากเกษตรกรที่ท้าการปั่นด้าย หรือซื้อจากโรงงานปั่นด้าย เนื่องจาก

                       เส้นด้ายที่ได้จากโรงงานและจากเกษตรกรจะมีลักษณะแตกต่างกัน หากผู้ทอผ้าต้องการผ้าที่มีลักษณะ

                       เรียบลื่นจะใช้เส้นด้ายจากโรงงาน แต่ถ้าต้องการผืนผ้าที่มีลักษณะไม่เรียบ จะใช้เส้นด้ายที่มาจากการ
                       ปั่นมือ ส่วนเส้นยืนนั้นเกษตรกรจะต้องสั่งซื้อจากโรงงานเท่านั้น เนื่องจากเส้นที่ปั่นมือจะมีขนาดเส้น

                       ไม่ยาวพอ อย่างไรก็ตามพบว่าการสั่งซื้อเส้นยืนจากโรงงานมีปัญหาในเรื่องขนาดของเส้นที่ไม่มีขนาด

                       ตามที่ผู้ทอต้องการ
                                        ปัญหาของด้านวัตถุดิบคือปริมาณเส้นด้ายมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ

                       เนื่องจากการปั่นด้ายต้องใช้ระยะเวลานานและมีผู้ปั่นจ้านวนไม่มากนัก ท้าให้ผู้ทอต้องรอวัตถุดิบ
                                        เส้นด้ายปั่นมือมีคุณภาพไม่ดีคือมีลักษณะเส้นใหญ่ หงิกงอ ท้าให้ต้องน้าเส้นมา

                       ปั่นใหม่ให้เป็นเส้นตรง
                                        1.1.2) ด้านการผลิต

                                        เกษตรกรผู้ทอผ้าไหมอีรี่จะใช้เส้นด้าย 2 ชุดคือเส้นยืนซึ่งเป็นเส้นที่ขนานตามแนว

                       ยาว และเส้นพุ่งคือเส้นแนวหน้ากว้าง โดยใช้เครื่องมือในการทอคือหูกหรือกี่ โดยการน้าด้ายไหมอีรี่
                       หนักประมาณ 1.275 กิโลกรัมมาทอเป็นผืนจะได้ผ้าผืนทอมือหนักประมาณ 1.1475 กิโลกรัม







                                                               80
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104