Page 100 -
P. 100
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในการทอผ้าจะเป็นการใช้ทักษะของผู้ทอเป็นหลัก โดยผู้ทอจะต้องมีการ
ออกแบบลวดลายของผ้าก่อนที่จะเริ่มทอ และมีการขึ้นแบบวางเส้นยืนซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
ดังนั้นในการทอผ้า 1 ผืน ใช้เวลาในการทอประมาณ 2 อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นผ้าพันคอที่มีขนาดเล็กลงจะ
ใช้เวลาประมาณ 1 วัน ดังนั้นรูปแบบการผลิตของเกษตรกรจึงเป็นการผลิตตามค้าสั่งซื้อ และผลิตเพื่อ
เก็บสต็อกในกรณีที่เกษตรกรมีการวางแผนที่จะไปจัดจ้าหน่ายตามงานแสดงสินค้า
ก้าลังการผลิตผ้าทอมือนั้นมีข้อจ้ากัด เนื่องจากใช้แรงงานคนเป็นหลัก ท้าให้ต้อง
ใช้ระยะเวลาในการทอผ้าค่อนข้างนาน ไม่สามารถเพิ่มขนาดการผลิตได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีปัญหา
เรื่องแรงงานที่ใช้ในการทอ เนื่องจากเป็นแรงงานที่มีทักษะ
1.1.3) ด้านการตลาด
ในด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทอนั้นพบว่ามีสินค้าอยู่ในรูปต่างๆ อาทิเช่น
ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ และผ้าถุง โดยมีการออกแบบให้มีลวดลายแตกต่างกันไปตามลวดลายในแต่ละ
พื้นที่ ลักษณะเด่นของผ้าไหมอีรี่คือมีความนุ่ม ซับน้้าได้ดี ไม่มันวาวแบบผ้าไหมหม่อน เมื่อน้าไปสวม
ใส่จะสบายตัว
ราคาจ้าหน่ายของผ้าไหมอีรี่นั้นขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ทอ คือการออกแบบ
ลวดลาย สีสัน และความละเอียดประณีตในการทอ จากการสัมภาษณ์พบว่าผ้าพันคอขนาดความยาว
1.8 เมตร มีราคาจ้าหน่ายประมาณ 800 บาทต่อผืน เมื่อเปรียบเทียบกับราคาผ้าชนิดอื่นๆพบว่ามี
ราคาค่อนข้างสูง
กลุ่มลูกค้าที่ซื้อผ้าไหมอีรี่นั้นพบว่า ร้อยละ 80 เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมที่รู้จักไหมอีรี่
เนื่องจากไหมอีรี่มีลักษณะภายนอกคล้ายกับผ้าฝ้าย คือไม่มันวาว อีกทั้งการรับรู้ของผู้บริโภคชาวไทย
ต่อผ้าไหมคือต้องมีลักษณะมันวาว อีกทั้งผ้าไหมอีรี่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ท้าให้การเข้าถึงกลุ่ม
ลูกค้ารายใหม่ท้าได้ยาก ประกอบกับราคาผ้าไหมอีรี่ที่ค่อนข้างสูง ท้าให้ลูกค้ารายใหม่ไม่กล้าตัดสินใจ
ซื้อ
ช่องทางจัดจ้าหน่าย พบว่าเกษตรกรจะมีการออกแสดงตามงานโอทอป หรืองาน
แสดงที่ทางราชการจัดแสดงเท่านั้น โดยใน 1 ปีจะมีการออกแสดงประมาณ 1-2 ครั้งเท่านั้น
นอกจากนี้จะเป็นการติดต่อระหว่างลูกค้าและผู้ทอโดยตรง จะเห็นได้ว่าช่องทางการจัดจ้าหน่ายนั้นไม่
มีช่องทางถาวร และไม่หลากหลาย ท้าให้เข้าถึงลูกค้าได้เพียงไม่กี่กลุ่ม และมักเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมๆ
81