Page 9 -
P. 9
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พ.ศ. 2545 มีผลกระทบต่อโครงสร้างราคาโดยผลการศึกษาพบว่าการเกิดนํ าท่วมในครั งนั นเป็นเหตุให้ราคา
ข้าวหอมมะลิมีแนวโน้มเพิ มสูงขึ นอย่างมีนัยสําคัญ
สําหรับการศึกษาเพื อระบุช่องทางที ภัยพิบัติทางธรรมชาติส่งผลกระทบต่อการเปลี ยนแปลง
โครงสร้างราคาพืชเศรษฐกิจนั น ได้ศึกษาช่องทางที ภัยพิบัติทางธรรมชาติส่งผลกระทบต่อการเปลี ยนแปลง
โครงสร้างราคาพืชเศรษฐกิจใน 2 กรณี คือ (1) การที ภัยธรรมชาติในประเทศไทยกระทบราคาสินค้าเกษตร
ผ่านฝั งอุปทาน การศึกษานี ทดสอบผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อปริมาณผลผลิตพืชเศรษฐกิจแต่
ละชนิดโดยแบบจําลอง Interrupted Time-series หากการเกิดภัยธรรมชาติในประเทศไทยกระทบต่อ
ความสามารถในการผลิตหรือเก็บเกี ยวพืชเศรษฐกิจแล้ว แสดงว่าภัยธรรมชาตินั นอาจจะส่งผลต่อราคาสินค้า
เกษตรผ่านทางอุปทานของสินค้าเกษตรนั น ๆ และ (2) การที ภัยธรรมชาติในต่างประเทศกระทบราคาสินค้า
เกษตรผ่านอุปสงค์จากต่างประเทศ โดยการประมาณค่าความสัมพันธ์ในระยะสั นและระยะยาวระหว่างราคา
สินค้าเกษตรในประเทศไทยและราคาสินค้าเกษตรในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดต่างประเทศโดย
วิธี Markov-Switching Error-Correction Model (MS-ECM) การเกิดภัยธรรมชาติในประเทศอื น ไม่ว่าจะ
เป็นประเทศที นําเข้าหรือส่งออกสินค้าเกษตรชนิดนั นจะกระทบอุปสงค์และอุปทานตลาดโลก ซึ งส่งผล
กระทบต่อราคาตลาดโลก การเปลี ยนแปลงของราคาตลาดโลกนั นสามารถถูกส่งผ่านมายังราคาสินค้าเกษตร
ในประเทศไทยได้ผ่านกระบวนการที เรียกว่าการส่งผ่านราคา (Price transmission)
สําหรับการศึกษาช่องทางที ภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทยส่งผลกระทบต่อการเปลี ยนแปลง
โครงสร้างราคาพืชเศรษฐกิจในกรณีที 1 หรือการศึกษาผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อปริมาณ
ผลผลิตพืชเศรษฐกิจแต่ละชนิดโดยแบบจําลอง Interrupted Time-series นั น ข้อมูลการเกิดภัยธรรมชาติที ใช้
ในการศึกษานั น เป็นภัยที เกิดในจังหวัดที มีการปลูกพืชชนิดนั น ๆ มากที สุด สําหรับยางพาราและปาล์ม
นํ ามันนั น เนื องด้วยสภาพภูมิอากาศที เอื ออํานวยจึงมีการเพาะปลูกมากในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และด้วย
ลักษณะภูมิอากาศเช่นกันจึงประสบความเสี ยงจากภัยนํ าท่วมเป็นส่วนมาก โดยในกรณีของยางพาราและ
ปาล์มนํ ามัน หากระยะเวลาเกิดนํ าท่วมไม่นานเกินไป ในกรณีปาล์มนํ ามันอาจจะมีความเสียหายเกิดแก่ผล
ปาล์ม แต่โดยมากความเสียหายที เกิดกับลําต้นและรากสามารถฟื นฟูได้ทั งในกรณียางพาราและปาล์มนํ ามัน
หากแต่ว่าในระยะที ฝนตกอย่างต่อเนื องหรือมีนํ าท่วมนั น เกษตรกรอาจจะไม่สามารถเก็บเกี ยวผลผลิตได้
จากผลการศึกษาพบว่าการเกิดนํ าท่วมนั นกระทบปริมาณผลผลิตปาล์มนํ ามันมากกว่ายางพารา ในกรณีของ
ยางพาราพบผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อปริมาณผลผลิตทั งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและในประเทศไทย
เพียงหนึ งครั งในช่วงเวลาที ศึกษา ซึ งคือการเกิดมหาอุทกภัยปลายปี พ .ศ . 2553 ในกรณีปาล์มนํ ามันนั น
โดยทั วไปแล้วไม่ว่าจะเป็นนํ าท่วมหรือภัยแล้ง ผลผลิตปาล์มนํ ามันจะเพิ มขึ นอย่างฉับพลันในช่วงเวลาที เริ ม
เกิดภัยแล้วจึงค่อย ๆ ลดลงในเดือนต่อไป ทั งนี อาจเนื องมาจากการเก็บเกี ยวผลปาล์มโดยปกติแล้วใช้เวลา
10-15 วันเมื อมีภัยจึงอาจมีความยืดหยุ่นด้านระยะเวลาอยู่บ้าง หากเกษตรกรคิดว่าอาจเกิดปัญหานํ าท่วม
อาจจะเร่งระยะการเก็บเล็กน้อยได้ สําหรับมันสําปะหลังมีการเพาะปลูกมากในจังหวัดนครราชสีมาและ
ประสบความเสี ยงจากภัยแล้งเป็นส่วนมาก ในกรณีมันสําปะหลังนั นผลของการเกิดภัยแล้งต่อปริมาณการ
vii