Page 6 -
P. 6
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การเกิดภัยธรรมชาติในประเทศไทยกระทบต่อความสามารถในการผลิตหรือเก็บเกี ยวพืชเศรษฐกิจแล้ว
แสดงว่าภัยธรรมชาตินั นอาจจะส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรผ่านทางอุปทานของสินค้าเกษตรนั น ๆ การศึกษา
ในส่วนนี ศึกษาในกรณีของยางพารา ปาล์มนํ ามัน และมันสําปะหลัง ทั งนี การศึกษาไม่รวมถึงผลผลิต
ข้าวเปลือกหอมมะลิเนื องจากการปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิซึ งเป็นข้าวนาปีที ต้องปลูกตามฤดูกาล เป็นเหตุให้
การใช้ข้อมูลผลผลิตรายเดือนในการศึกษาผลกระทบจากภัยธรรมชาติมีความซับซ้อน และ (2) การที ภัย
ธรรมชาติในต่างประเทศกระทบราคาสินค้าเกษตรผ่านอุปสงค์จากต่างประเทศ โดยการประมาณค่า
ความสัมพันธ์ในระยะสั นและระยะยาวระหว่างราคาสินค้าเกษตรในประเทศไทยและราคาสินค้าเกษตรใน
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดต่างประเทศโดยวิธี Markov-Switching Error-Correction Model (MS-
ECM) การเกิดภัยธรรมชาติในประเทศอื น ไม่ว่าจะเป็นประเทศที นําเข้าหรือส่งออกสินค้าเกษตรชนิดนั นจะ
กระทบอุปสงค์และอุปทานตลาดโลก ซึ งส่งผลกระทบต่อราคาตลาดโลก การเปลี ยนแปลงของราคา
ตลาดโลกนั นสามารถถูกส่งผ่านมายังราคาสินค้าเกษตรในประเทศไทยได้ผ่านกระบวนการที เรียกว่าการ
ส่งผ่านราคา (Price transmission) ดังนั นการศึกษาในส่วนนี จึงวัดความสามารถในการส่งผ่านราคาของราคา
ตลาดโลกมายังราคาหน้าสวนในประเทศไทย ทั งนี ด้วยข้อจํากัดทางข้อมูล การศึกษา นักวิจัยจึงทําการศึกษา
แค่เพียงกรณียางพารา
สําหรับผลการศึกษาช่องทางที ภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทยส่งผลกระทบต่อการ
เปลี ยนแปลงโครงสร้างราคาพืชเศรษฐกิจในกรณีที 1 หรือการศึกษาผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อ
ปริมาณผลผลิตพืชเศรษฐกิจแต่ละชนิดโดยแบบจําลอง Interrupted Time-series นั น ข้อมูลการเกิดภัย
ธรรมชาติที ใช้ในการศึกษานั น เป็นภัยที เกิดในจังหวัดที มีการปลูกพืชชนิดนั น ๆ มากที สุด สําหรับยางพารา
และปาล์มนํ ามันนั น เนื องด้วยสภาพภูมิอากาศที เอื ออํานวยจึงมีการเพาะปลูกมากในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และด้วยลักษณะภูมิอากาศเช่นกันจึงประสบความเสี ยงจากภัยนํ าท่วมเป็นส่วนมาก มันสําปะหลังมีการ
เพาะปลูกมากในจังหวัดนครราชสีมาและประสบความเสี ยงจากภัยแล้งเป็นส่วนมาก โดยในกรณีของ
ยางพาราและปาล์มนํ ามัน หากระยะเวลาเกิดนํ าท่วมไม่นานเกินไป ในกรณีปาล์มนํ ามันอาจจะมีความ
เสียหายเกิดแก่ผลปาล์ม แต่โดยมากความเสียหายที เกิดกับลําต้นและรากสามารถฟื นฟูได้ทั งในกรณียางพารา
และปาล์มนํ ามัน หากแต่ว่าในระยะที ฝนตกอย่างต่อเนื องหรือมีนํ าท่วมนั น เกษตรกรอาจจะไม่สามารถเก็บ
เกี ยวผลผลิตได้ จากผลการศึกษาพบว่าการเกิดนํ าท่วมนั นกระทบปริมาณผลผลิตปาล์มนํ ามันมากกว่า
ยางพารา ในกรณีของยางพาราพบผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อปริมาณผลผลิตทั งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และในประเทศไทยเพียงหนึ งครั งในช่วงเวลาที ศึกษา ซึ งคือการเกิดมหาอุทกภัยปลายปี พ .ศ . 2553 ในกรณี
ปาล์มนํ ามันนั นโดยทั วไปแล้วไม่ว่าจะเป็นนํ าท่วมหรือภัยแล้ง ผลผลิตปาล์มนํ ามันจะเพิ มขึ นอย่างฉับพลัน
ในช่วงเวลาที เริ มเกิดภัยแล้วจึงค่อย ๆ ลดลงในเดือนต่อไป ทั งนี อาจเนื องมาจากการเก็บเกี ยวผลปาล์มโดย
ปกติแล้วใช้เวลา 10-15 วันเมื อมีภัยจึงอาจมีความยืดหยุ่นด้านระยะเวลาอยู่บ้าง หากเกษตรกรคิดว่าอาจเกิด
ปัญหานํ าท่วมอาจจะเร่งระยะการเก็บเล็กน้อยได้ สําหรับมันสําปะหลังนั นผลการศึกษามีความหลากหลาย
iv