Page 309 -
P. 309
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สารเคมีในทุกขั้นตอนทําให้ผลผลิตกาแฟมีคุณภาพสูง รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมมากกว่ากาแฟที่ปลูกกลาง
เเจ้ง เนื่องจากการเติบโตที่เป็นไปตามธรรมชาติทําให้เมล็ดกาแฟดูดซึมสารอาหารภายในดินได้ดีและทุก
ขั้นตอนการผลิตมีความพิถีพิถันตั้งแต่การปลูก กระบวนการเก็บด้วยมือทีละเมล็ด ไปจนถึงการแปรรูปภายใน
24 ชั่วโมงเพื่อคงคุณค่าและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไว้อย่างครบถ้วน
7.4 เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
เนื่องจากการทําเกษตรอินทรีย์ต้องมีการรับรอง และการรับรองจะมีสองระดับคือ ระดับ
Participatory Guarantee Systems (PGS) สําหรับเกษตรกรที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการ (ระบบนี้จะเป็นการ
รับรองโดยสมาชิกในชุมชน และมีวนาก็จะร่วมตรวจแปลงด้วย)ส่วนอีกระดับเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของ
สํานักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นระบบที่ถอดแบบมาจากสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ
(International Federation of Organic Agriculture Movements – IFOAM) การจะได้มาตรฐานนี้ต้อง
เลิกใช้สารเคมีอย่างน้อย 18 เดือน
ปัจจุบัน กาแฟของมีวนาประมาณร้อยละ 70 รับรองโดยระบบของ IFOAM โดยส่วนที่เหลือจะใช้
ระบบรับรองแบบ PGS แต่ก็จะรับซื้อกาแฟทั้งหมดไม่ว่ารับรองโดยระบบไหน ซึ่งหากยังอยู่ในระบบ PGS มี
วนาจะขายเป็นผลผลิตที่เรียกว่า ‘อินทรีย์ในระยะเปลี่ยนผ่าน (organic on conversion)’
เงื่อนไขของการรับรองระดับ Participatory Guarantee Systems (PGS)มีทั้งหมด 12 ข้อ
1) ห้ามเปิดป่าสาธารณะเพื่อทําเกษตรเพิ่มขึ้น และต้องอนุรักษ์ป่ารอบแปลงเกษตรอย่างจริงจัง
2) พื้นที่ที่ปลูกกาแฟทุกแปลงจะต้องทําเกษตรอินทรีย์ และปฏิบัติตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์นี้
3) ผลผลิตกาแฟจะขายเป็นเกษตรอินทรีย์ PGS ได้ จะต้องปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีการเกษตรทุกชนิด
ไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจจากระบบ PGS แล้ว
4) ในแปลงกาแฟ จะต้องปลูกไม้ให้ร่มเงา (ที่มีขนาดสูงกว่ากาแฟ) ไม่น้อยกว่า 50 ต้น/ไร่ (หรือ
ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 75%) ถ้าในแปลงกาแฟไม่มีไม้ให้ร่มเงา จะต้องเริ่มปลูกไม้ให้ร่มเงา
ภายใน 6 เดือน หลังจากที่เข้าร่วมโครงการ
5) ในแปลงกาแฟทุกแปลง จะต้องมีต้นไม้พื้นบ้าน ไม่น้อยกว่า 10 ชนิด โดยครึ่งหนึ่งมีทรงพุ่มที่สูง
กว่ากาแฟ และอีกครึ่งหนึ่งที่มีทรงพุ่มระดับไม่ เกิน 3 เมตร ในกรณีที่มีไม้พื้นบ้านไม่ถึงจํานวนที่
กําหนด ให้เริ่มทําการปลูกภายใน 6 เดือน หลังจากที่เข้าร่วมโครงการ
6) ในแปลงกาแฟทุกแปลง จะต้องมีพืชขึ้นคลุมดิน หรือมีอินทรียวัตถุปกคลุมหน้าดิน ไม่น้อยกว่า
80% ของแปลง
7) ถ้าแปลงกาแฟที่อยู่บนเนินชันและมีปัญหาการชะล้างหน้าดิน เกษตรกรสมาชิกจะต้องจัดทํา
มาตรการป้องกันการชะล้างหน้าดิน
8) ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมีกําจัดวัชพืช สารเคมีกําจัดแมลงและศัตรูพืช ฮอร์โมนสังเคราะห์ หรือ
สารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิดในแปลงเกษตรที่ขอรับรองไม่ว่ากรณีใด
a-39
